หลายๆคนคงเคยได้ยินคำว่า คารมเป็นต่อ รูปหล่อเป็นรอง ไม่รู้ว่าจะใช้กับสาวๆสมัยนี้ได้ผลหรือเปล่า … เรามาดูกันดีกว่า ว่าคารมของผู้ชายปากหวานและผู้ชายปากแข็งจะต่างกันแค่ไหน
คารมของผู้ชายปากหวาน และผู้ชายปากแข็ง
เวลาเจอผู้หญิงสวยๆ เดินผ่าน
ผู้ชายปากหวาน : โอ้ะ ! ตอนนี้ผมตายไปอยู่บนสรวงสวรรค์แล้วหรือเนี่ย ไม่นึกเลยว่าจะได้เจอกับนางฟ้าที่งามเลิศถึงเพียงนี้
ผู้ชายปากแข็ง : ….. ( มองโดยไม่พูดอะไร ปล่อยให้สาวเดินผ่านไปต่อหน้าต่อตา )
เวลาขอเบอร์โทรศัพท์ผู้หญิง
ผู้ชายปากหวาน : คุณครับ คุณเชื่อในเรื่องพรหมลิขิตไหมครับ ไม่ว่าคุณจะเชื่อหรือไม่เชื่อ แต่การที่ผมได้พบกับคุณมันต้องเป็นเรื่องของพรหมลิขิตแน่ๆเลย รบกวนขอเบอร์ติดต่อกลับสักหน่อยจะได้ไหมครับ ผมอยากรู้เรื่องราวของพรหมลิขิตให้ลึกซึ้งครับ
ผู้ชายปากแข็ง : …. ( ยืนถือโทรศัพท์แต่ยังไม่ทันได้ไปขอผู้หญิงคนนั้นก็เดินจากไป )
เวลาชวนผู้หญิงไปเที่ยว
ผู้ชายปากหวาน : ไม่ทราบจะรังเกลียดไหมครับ ถ้าผมคิดจะชวนนางฟ้าลงมาเดินดินเที่ยวเล่นบนโลกมนุษย์สักหนึ่งวัน นางฟ้าพอจะมีเวลาว่างไหมครับ
ผู้ชายปากแข็ง : พรุ่งนี้ว่างไหม … ไปธุระเป็นเพื่อนหน่อย ( ไม่กล้าบอกว่าชวนไปเที่ยว )
เวลาชวนผู้หญิงไปกินข้าว
ผู้ชายปากหวาน : ไม่รู้ว่านางฟ้าจะเบื่ออาหารบนสรวงสวรรค์แล้วหรือยัง แต่ผมคิดว่าอาหารบนโลกมนุษย์คงจะอร่อยไม่แพ้อาหารบนสรวงสวรรค์แน่ๆถ้าหากมีนางฟ้าไปนั่งรับประทานอาหารเคียงข้างกาย
ผู้ชายปากแข็ง : … ( มองร้านอาหารแต่ไม่กล้าบอกว่าตัวเองหิว จนต้องให้ผู้หญิงเอ่ยปากชวนไปกิน )
พอจีบติดแล้วมั้ง …
เวลาโทรไปหาจะต้องปิดท้ายก่อนวางสายด้วยว่า
ผู้ชายปากหวาน : คิดถึงนะตัวเอง .. รักเค้าเปล่า .. รักนะ.. รักที่สุดในโลกเลย
ผู้ชายปากแข็ง : แค่นี้นะ .. ( และก็วางสายทิ้งไปเลย )
เวลาบอกรักผู้หญิงที่ตัวเองชอบ
ผู้ชายปากหวาน : จะยกแม่น้ำทั้ง 5 ภูเขา ผีสางเทวดา สิ่งศักดิ์สิทธิ์ มาช่วยในการบอกรักต่างๆนาๆ
ผู้ชายปากแข็ง : … ( คบกันตั้งแต่ตอนไหนยังไม่รู้เลย )
เวลาเจอผู้หญิงบอกเลิก
ผู้ชายปากหวาน : ก็ยังจะยก สิ่งข้างต้นที่ตัวเองได้บอกไว้ตอนบอกรักขึ้นมาอ้าง แต่คราวนี้อาจจะใช้น้ำตาเป็นตัวช่วยประกอบในการขอให้รักกันเหมือนเดิม
ผู้ชายปากแข็ง : รักนะ … ( พึ่งรู้สึกตัวว่าจะต้องพูดคำคำนี้ )
ปล. จริงไม่จริงก็เป็นไปตามความคิดเห็นส่วนตัว ก็ไม่รู้เหมือนกันนะ ใครเป็นคนปากหวาน หรือ เป็นคนปากแข็ง