ผู้หญิง พฤติกรรม

พฤติกรรมของสาวๆ ที่ผู้ชายแบบไม่ค่อยเข้าใจ | ความในใจจากผู้ชาย

Home / ความรัก ความสัมพันธ์ / พฤติกรรมของสาวๆ ที่ผู้ชายแบบไม่ค่อยเข้าใจ | ความในใจจากผู้ชาย

ต่อให้คุณรักแฟนสาวของคุณมากขนาดไหน มันก็ต้องมีสักเรื่อง (หรือความจริงแล้วอาจจะหลายๆ เรื่อง) ที่ทำให้คุณไม่ค่อยเข้าใจ ในการกระทำ หรือว่าตรรกะความคิดของเธอสักเท่าไหร่ ซึ่งความจริงก็ไม่ใช่แค่แฟนของคุณหรอก ดูท่าทางผู้หญิงแทบทุกคนก็เป็นอย่างนี้จนมันน่าจะกลายเป็นเรื่องสากลไปแล้ว ทำให้หนุ่ม ๆ อย่างเรางงไปตาม ๆ กัน แล้วมันก็อัดอั้นอยากจะมาแชร์ให้คุณได้ฟังกันบ้าง ยิ่งได้ไปเจอบทความตรงใจจากเว็บไซต์ mensxp ที่เขารวบรวมพฤติกรรมของสาว ๆ ซึ่งชวนให้ผู้ชายอย่างเรารู้สึกฉงนไม่ค่อยจะเข้าใจเท่าไหร่ตั้งหลายข้อเอาไว้ด้วยกัน ลองดูกันหน่อยไหมครับ เผื่อว่าคุณจะคิดเหมือนกันด้วย

พฤติกรรมของผู้หญิง ที่ไม่เก็ทเลย

ไปห้องน้ำพร้อม ๆ กัน

นี่เป็นเรื่องที่หนุ่ม ๆ พบเห็นได้บ่อยจริงเชียว (อาจจะบ่อยจนชินไปแล้วก็ได้นะ) เมื่อพบว่าคุณแฟนและเพื่อนสาวของเธอ หรือว่าบรรดาเพื่อนผู้หญิงของคุณ มักจะไปเข้าห้องน้ำพร้อม ๆ กัน ประมาณว่ากินข้าวกันอยู่ แล้วพอถึงเวลาอยากจะเข้าห้องน้ำก็ลุกพรึ่บไปกันทั้งโต๊ะ ไม่รู้ว่าปวดห้องน้ำกันทุกคนหรือเปล่า แล้วถ้าไม่ปวดทำไมต้องลุกไป หรือถ้าปวดจริง ๆ แล้วทำไมไปคนเดียวไม่ได้ ตอบหน่อยได้ไหม ไม่เข้าใจจริง ๆ อ่ะ

เติมแป้ง ทาปาก ทั้ง ๆ ที่เพิ่งแต่งหน้ามาหยก ๆ

ในกระเป๋าของสาว ๆ มักจะมีชุดเครื่องสำอางเล็ก ๆ พกไว้เสมอ ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรสำหรับคนที่รักสวยรักงาม แต่ที่ไม่ค่อยจะเข้าใจก็คือ เธอใช้เวลาแต่งหน้าตั้งเกือบชั่วโมงเพื่อที่จะไปปาร์ตี้ พอไปรับถึงบ้าน ก็นั่งรถมาถึงที่จัดงานด้วยกัน ใช้เวลาไม่ถึง 15 นาที แต่ก่อนจะเข้างานเธอยังต้องขอหลบไปเข้าห้องน้ำเพื่อเติมแป้ง เติมลิปสติก ดีไม่ดีก็ปัดแก้ม ทาตา ปัดมาสคาร่าเพิ่มอีก อ้าว แล้วไอ้หนึ่งชั่วโมงที่นั่งแต่งหน้ามานั่นมันเพื่ออะไรกันล่ะ??

หัวเราะคิกคัก

ผู้หญิงชอบหัวเราะคิกคัก แถมยังหัวเราะได้ด้วยอารมณ์หลาย ๆ แบบด้วย ไม่ว่าจะหัวเราะเพื่อกลบเกลื่อนความเครียด หัวเราะกลบเกลื่อนความไม่พอใจ หัวเราะอารมณ์ดี หัวเราะมีเลศนัย และยังมีอีกหลาย ๆ เหตุผลที่ทำให้เธอหัวเราะคิกคักได้ จนทำให้ผมงงไปหมดแล้วว่าตกลงในตอนนั้นเธออยู่ในอารมณ์ไหนกันแน่

“ที่รัก คุณว่าฉันอ้วนไหม?”

ไม่รู้ทำไมผู้หญิงจึงชอบเอ่ยคำนี้อยู่บ่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่น่าจะรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองอ้วนหรือไม่อ้วน (ก็ดูตัวเลขที่ตาชั่งเอาสิจ๊ะแม่คุณ) แต่ก็ยังเพียรถามคำถามนี้อยู่บ่อย ๆ พอตอบว่า “คุณก็เริ่มจะอ้วนแล้วนะ” ก็งอน แต่พอตอบว่า “ไม่นี่ ที่รักของผมหุ่นดีออก” เธอก็จะตอบกลับมาว่า “ไม่จริงอ่ะ นี่ดูสิ ฉันอ้วนออก ขาใหญ่จะแย่แล้วเนี่ย” เอ่อ…ตกลงอยากได้คำตอบแบบไหนกันแน่ครับ

มาส์กหน้า กระดาษมหัศจรรย์

บรรดาผลิตภัณฑ์แผ่นมาส์กหน้าทั้งหลายต่างอวดอ้างสรรพคุณตัวเองว่า เทียบเท่าการใช้ครีมทั้งกระปุก ใช้แล้วหน้าขาวใส ผิวเนียน เต่งตึง เด๋งดึ๋ง ลดเลือนริ้วรอย แต่สาบานเลยว่าแทบจะไม่มีผู้ชายคนไหนสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงระหว่างก่อนและหลังที่สาว ๆ ใช้มาส์กหน้าหรอก พวกเราก็เลยรู้สึกว่ามันออกจะพิลึกนิด ๆ ที่ผู้หญิงทุ่มเงินเป็นร้อย เพื่อซื้อมาส์กใช้แล้วทิ้งแค่แผ่นเดียวมาแปะหน้า แถมเวลานอนตอนจะหันไปกอดแฟน พอกระดาษขาว ๆ ปะหน้าไว้ ก็ชวนให้เราผวาได้เหมือนกันนะ

เสื้อผ้าแน่นเต็มตู้ แต่บอกว่าไม่มีชุดใส่

เหตุการณ์นี้พบเจอได้บ่อย ๆ ยามเธอต้องเตรียมแต่งตัวสวยเพื่อไปงานพิเศษอะไรสักอย่าง เสื้อผ้าทุกชุดในตู้ถูกจับมาลองหมด แต่สุดท้ายก็ลงท้ายด้วยการบอกว่า “ฉันไม่มีชุดดี ๆ ใส่เลยค่ะ” แล้วก็ไปช้อปปิ้งซื้อเสื้อผ้าใหม่มาใส่สำหรับงานนี้โดยเฉพาะ และไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลังงานผ่านพ้นไปชุดใหม่ชุดนี้ก็จะถูกแขวนทิ้งในตู้เสื้อผ้าอีกตามเคย

กระเป๋าคลัทช์ .. จะใบเล็กไปไหน

คลัทช์ คือกระเป๋าถือใบเล็ก ๆ ของคุณผู้หญิง ที่คุณมักจะเห็นเธอหนีบไปงานเลี้ยงหรูหราอยู่บ่อย ๆ ซึ่งขนาดของมันก็เล็กมาก จนน่าจะพอให้ใส่แค่ลิปสติกกับโทรศัพท์ได้เท่านั้นแหละ ส่วนของที่เหลืออย่าง กระดาษทิชชู่ กระเป๋าสตางค์ หวี แป้ง ฯลฯ ถ้าไม่ยัดเอาไว้ในลิ้นชักรถ ก็ถูกยัดเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงของคุณผู้ชายแทน เห็นแบบนี้แล้วข้องใจจริง ๆ ว่าตกลงไอ้กระเป๋าคลัทช์ใบจิ๋ว ๆ นั่น มันผลิตมาเพื่อประโยชน์อะไรกันฮึ?

กระเป๋าโอเวอร์ไซส์…ใหญ่ไปป่ะ

ผู้หญิงมักมีกระเป๋าสะพายสำหรับใส่ข้าวของส่วนตัวของพวกเธอ สิ่งนี้ผมก็เข้าใจและไม่มีปัญหา แต่ความน่าฉงนมันเกิดขึ้นเมื่อเห็นสาว ๆ บางคนแบกกระเป๋าใบใหญ่มากกกก ขนาดที่ใส่เสื้อผ้าไปเดินทางค้างคืนต่างจังหวัดได้เลย คือมันใบใหญ่เกินไปมั้ย หรือว่ามีของรักของหวงอะไรต้องพกติดตัวไว้มากมายขนาดนั้นกันครับ

โลชั่นสำหรับ มือ เท้า เล็บ ทำไมต้องแยกกัน

หากจะใช้ครีมสำหรับผิวหน้าและผิวกายแยกจากกัน อันนั้นก็สมเหตุสมผลพอเข้าใจได้อยู่ แต่ไม่รู้ว่าของอย่างครีมทามือ ครีมทาเล็บ ครีมทาเท้า จะทำแยกกันมาทำไม ใช้โลชั่นขวดเดียวไปเลยไม่ได้เหรอ ก็ในเมื่อมันก็เป็นส่วนหนึ่งของผิวกายเหมือนกันน่ะ?

การ์ดกระดาษ

ถ้าเข้าใจไม่ผิดนี่มันน่าจะเป็นยุคของอีการ์ดกับอีเมลแล้วไม่ใช่หรือ แล้วทำไมสาว ๆ ถึงยังเรียกร้องการ์ดกระดาษ (และต้องเขียนด้วยลายมือ) สำหรับโอกาสพิเศษต่าง ๆ ด้วยหนอ โอเค อาจจะเก็บไว้เป็นที่ระลึกเพราะมันมีคุณค่าทางจิตใจดี อันนี้เราเข้าใจ…แต่ไหนลองตอบอีกหน่อยสิว่า เวลาเห็นการ์ดน่ารัก ๆ แล้วทำไมต้องโดดเข้าไปซื้อ จะเขียนส่งให้ใครหรือก็เปล่า มีโอกาสพิเศษอะไรไหมก็ไม่ ซื้อมาทีไรก็เห็นเก็บเอาไว้เองเฉย ๆ ทุกทีสิน่า

ชอบซื้อจานชามสวยหรู แต่ไม่เอามาใช้

แฟนใครเป็นแม่บ้านน่าจะเข้าใจเรื่องนี้ดี เธอเป็นคนหนึ่งใช่ไหมที่ชอบซื้อจานชามสวย ๆ มาเก็บไว้ ทั้งจานรองกาแฟ จานสำหรับผลไม้ จานข้าว จานกับข้าว ชามใส่แกง ชามสลัด ชุดช้อนส้อมมีดสุดหรูหรา แต่สุดท้ายก็ซื้อมาเก็บไว้ในตู้ไม่เห็นเอามาใช้สักที พอจะหยิบมาใส่อาหารหน่อยก็โดนว่า กลัวจานชามเป็นรอย เอ้า ตกลงซื้อมาเก็บไว้เฉย ๆ ใช่มั้ยเนี่ย

เปลี่ยนเสื้อผ้าบ่อย

สำหรับผู้ชาย หากแต่งตัวแบบไหนออกจากบ้านแล้ว ก็จะลุยไปไหนมาไหนในชุดนั้นได้ทั้งวัน ในขณะที่คุณผู้หญิงหากเป็นไปได้ก็มักจะขอเปลี่ยนชุดทุกครั้งสำหรับธุระต่าง ๆ ในวันเดียวกัน เธอออกไปทำงานในชุดหนึ่ง ออกไปกินข้าวเย็นกับเพื่อนก็ต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าอีกชุด เดี๋ยวไปเที่ยวกลางคืนต่อก็พกไปเปลี่ยนอีกชุดหนึ่งด้วย เอ่อ เปลี่ยนถี่แบบนี้ คงซักผ้ากันยุ่งเลยเนอะ

“ใช่” กับ “ไม่” มีความหมายตรงกันข้ามเสมอ

นี่เป็นตรรกะง่าย ๆ ที่จะทำให้คุณเข้าใจผู้หญิงได้มากขึ้น ท่องเอาไว้ว่ายามที่เธอพูดว่า “ไม่”แสดงว่าเธอบอกว่า “ใช่” แต่ถ้าเธอพูดว่า “ใช่” นั่นหมายความว่าเธอกำลังปฏิเสธนะครับ

เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด

ยามเพื่อนสาวเจอหน้ากันก็ยิ้มแย้มจ๊ะจ๋า โอบเอว กอดคอ ถ่ายรูปลงเฟซบุ๊ก พอลับหลังปุ๊บก็นินทากันไฟแลบ (ผมเคยได้ยิน) แต่วันรุ่งขึ้นก็นัดไปกินข้าวกับเพื่อนกลุ่มเดิมอีก ตกลงเป็นเพื่อนกันจริง ๆ หรือเปล่านี่ เรื่องนี้เข้าใจยากสำหรับผู้ชายนะครับ เพราะสำหรับเราแล้ว ถ้าไม่ใช่ “มิตร” ก็ต้องเป็น”ศัตรู” เท่านั้นล่ะ

บ้า Shopping

ตั้งแต่เกิดมาแทบจะไม่เคยเห็นผู้หญิงสักคนที่จะไม่ชอบการช้อปปิ้ง พวกเธอสามารถเดินช้อปปิ้งได้ทั้งวัน เข้าร้านนั้นออกร้านนี้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ซื้ออะไรติดมือออกมาก็เถอะ แบบว่าขอแค่เข้าไปดูไปจับไปลองเท่านี้ก็พอใจแล้ว

กอสซิปคืองานอดิเรก

ผู้หญิงเป็นเพศที่สามารถกอสซิปคุยจุกคุยจิกได้ทุกเรื่องจริง ๆ ตั้งแต่เรื่องดารา ใครหย่า ใครท้อง ใครมีน้องก่อนแต่ง เรื่องของเพื่อนร่วมงาน เพื่อนข้างบ้าน ไปจนกระทั่งเรื่องของเจ้านาย และอีกนานาสารพันเรื่องที่เธอสามารถสรรหาขึ้นมาคุย แถมคุยได้แบบ non-stop ไม่มีขาดตอนด้วยนะ เคยขึ้นรถประจำทางคันเดียวกับสาวออฟฟิศ 2-3 คน ได้ยินพวกเธอเม้าท์กันมันหยดไม่ซ้ำเรื่องตั้งแต่ขึ้นจนลงรถเลยทีเดียวล่ะ

รองเท้าส้นสูงกัด แต่ก็ยังใส่

ผู้หญิงกับรองเท้าส้นสูงดูจะเป็นของคู่กันอีกอย่างหนึ่ง และเธอก็ปลื้มมันเอามาก ๆ เลยเชียว ขนาดที่ว่าถ้าไม่ใส่แล้วจะไม่มั่นใจ รู้สึกยังสวยไม่เต็มร้อย ทั้ง ๆ ที่เธอก็บ่นแล้วบ่นอีกว่าใส่แล้วรองเท้ากัด เจ็บเท้า ปวดขา แต่ก็ยังตั้งหน้าตั้งตาซื้อรองเท้าส้นสูงคู่ใหม่อยู่ทุก ๆ เดือน ไม่เข้าใจจริง ๆ เฮ้อออ..

เอ จะกินดีมั้ยน้า ?

ผู้หญิงแทบร้อยทั้งร้อยกลัวอ้วน เธอไม่อยากให้น้ำหนักขึ้นแต่ก็ยังฝันหวานถึงการกินเค้กหรือช็อกโกแลต ทำไมต้องอดใจไม่ให้กินเมื่อรู้สึกอยาก แล้วทำไมต้องบ่นว่าอยากทั้ง ๆ ที่ไม่ยอมกินเข้าไป .. อืม เข้าใจยากนะ

กรี๊ดดดด!!

ผู้หญิงไม่แหกปากตะโกนเสียงดัง ผู้หญิงไม่โวยวายโหวกเหวก แต่สิ่งที่พวกเธอทำคือการ”กรี๊ด” ด้วยเสียงหวีดที่แสนจะแสบแก้วหู ยิ่งเวลาเห็นเด็กสาว ๆ กรี๊ดตอนเจอไอดอลคนโปรด เบ่งเสียงจนคอเป็นเอ็น หยุดพักหายใจแล้วไอค่อกแค่ก แต่แป๊บ ๆ เดี๋ยวก็กลับไปกรี๊ดต่ออีก เฮ้อ ทำไมต้องกรี๊ดกันด้วยหนอ ไม่เจ็บคอหรือไงจ๊ะ

ทำปากเจ่อตอนถ่ายรูป

พอผู้หญิงเข้ากล้องทีไร ท่าโพสแบบนี้ก็ผุดออกมาอย่างกับเป็นสัญชาตญาณอย่างนั้นแหละ นี่ยังไม่รับรวมท่าพ้อยท์ขา (ทั้ง ๆ ที่ถ่ายครึ่งตัว) หรือทำตาโตจิกกล้องอมลมแก้มป่อง ๆ อีกนะ พวกเธอจะรู้ไหมว่า ใช่ว่าทุกคนที่ทำท่าแบบนี้แล้วจะดูดีน่ะ

ตัดสินใจจนวินาทีสุดท้าย

เวลาที่พวกเธอต้องตัดสินใจอะไรสักอย่าง สังเกตกันไหมว่าผู้หญิงชอบคิดแล้วคิดอีก ตัดสินใจแล้วก็เปลี่ยนใจใหม่อยู่เรื่อย ๆ จนกว่าจะวินาทีสุดท้าย (แถมบางทีลงมือทำแล้วยังเปลี่ยนใจกลางคันด้วยนะ) ทำเอาคนที่คอยตามหรือต้องทำอะไรร่วมกันรู้สึกเบื่อหน่ายไปตาม ๆ กัน

สงครามความเงียบ

จากสาวที่ช่างฉอเลาะ คุยนั่นคุยนี่อยู่ตลอดเวลา กลายเป็นจู่ ๆ ก็เงียบ ถามอะไรก็ไม่หือไม่อือ แบบนี้เป็นอาการที่บอกคุณผู้ชายว่าเธอกำลังไม่ชอบใจอะไรสักอย่างอยู่ และเจ้าสงครามประสาทแบบนี้แหละที่ผู้ชายเกลียดนักเกลียดหนา ถ้าอยากให้เราทำอะไรให้ถูกใจทำไมไม่บอกพวกเรามาตรง ๆ ล่ะจ๊ะที่รักจ๋า

นี่แหละหนาสารพัดเรื่องที่ทำให้ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ซับซ้อนและเข้าใจยากกกกกกมากที่สุด รู้ซึ้งไปถึงก้นบึ้งของหัวใจเลยครับ ว่า “ผู้หญิงเข้าใจยาก” จริง ๆ …แต่ถึงจะยากอย่างนี้ ความจริงก็รักนะจ๊ะ เด็กโง่ =3=