แม้ผู้หญิงจะมีความละเอียดอ่อนเพียงใด ก็ใช่ว่าจะเข้าใจผู้ชายได้ดีพอ และอาจปฎิบัติต่อเขาผิดพลาดไปอย่างน่าเสียดาย ลองนึกดูสิว่าเขาของคุณเป็นอย่างนี้บ้างหรือเปล่า
5 เคล็ดลับใช้หัวใจฟังผู้ชาย
1. เกลียดการเป็นคนผิด
ถ้าเขาเลือกขับรถเข้าไปในทางที่ผิดโดยไม่ฟังคำค้านของคุณเลย ก็จงอย่าไปว่ากล่าวเขา เพราะผู้ชายน่ะเกลียดที่จะเป็นคนผิดโดยเฉพาะกับผู้หญิง การรู้เท่าทันปัญหา เป็นผู้สั่งการถือเป็นสิ่งที่เขาเชื่อมั่นมาโดยตลอด การตอกย้ำว่าเขาผิดไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น เขาพอใจที่จะถูกเสมอและมองข้ามความผิดของเขาไป
ผู้หญิงควรทำ แทนที่จะพูดว่า “คุณก็เป็นอย่างนี้ รู้ว่ามาผิดทางก็ยังดันทุรัง”
ให้พูดว่า “คุณน่าจะลองถามทางคนแถวนี้ดูนะ ปกติคุณรู้เส้นทางดี แต่แถวนี้มันวกวนไปหน่อย”
2. เกลียดผู้หญิงหงุดหงิด
เจ้าอารมณ์ ไม่มีใครชอบการเป็นเครื่องรองรับอารมณ์ ยิ่งผู้ชายยิ่งแล้วใหญ่ การที่ผู้หญิงระดมพายุอารมณ์ใส่เขาย่อมเป็นการท้าทายความมั่นคงของเขา หากเขาเฉยเมยไม่ตอบโต้ก็กลัวจะเป็นฝ่ายอ่อนแอ เพราะฉะนั้นอย่าผลักเขาเข้าไปในมุมอับ ผู้ชายไม่รู้อะไรทุกเรื่อง ถ้าคุณเซ็ง หงุดหงิด ก็จงบอกเขาไปตามตรงว่าต้องการอะไรจากเขา
ผู้หญิงควรทำ แทนที่จะพูดว่า “พอกันที ฉันเบื่อความซื่อบื้อของคุณเต็มทีแล้ว”
ให้พูดว่า “คุณรู้ไหม ที่คุณลืมวันเกิดฉัน ฉันเสียใจมากจริงๆ” (ถอนหายใจยาวๆก่อนพูด 3 ที)
3. เกลียดผู้หญิงทำตัวเป็นแม่
ทำเหมือนเขาเป็นเด็กเล็กทีต้องคอยคำชี้แนะตักเตือน ผู้หญิงเติบโตมาโดยมีภาพแม่เป็นแบบอย่าง เก็บความเป็นแม่ไว้ใช้กับลูกเท่านั้นเถิด ผู้ชายอาจต้องการคำแนะนำดีๆบ้างแต่ไม่ใช่การสอนและปกครอง เขารู้สึกว่าไม่มีความสามารถและหมดคุณค่าในตัวเอง
ผู้หญิงควรทำ แทนที่จะพูดว่า “คุณโทรไปบอกเพื่อนคุณสิว่าไม่สบายไปไม่ได้”
ให้พูดว่า “ที่รัก ฉันเป็นห่วงคุณจัง ท่าทางคุณอยากพักผ่อนมากกว่า”
5 เคล็ดลับใช้หัวใจฟังผู้ชาย
จะรู้ได้อย่างไรว่าเขาคิด รู้สึกและต้องการอะไร ถ้าเราตัวแต่ใช้หูเงี่ยแต่ไม่ใช้ใจฟัง เทคนิคง่ายๆนี้อาจช่วยให้ผู้หญิงถึงบางอ้อก็ได้
1. อย่าขัดคอ
รู้ไหม ผู้ชายมีความระมัดระวังและความพยายามในการพูดอย่างมาก แต่ถ้าถูกขัดคอเขาจะติดขัดไปไม่ถึงจุดหมายที่เขาต้องการเสียที ผู้หญิงเราอาจจะละเอียดละออไปหน่อยเลยมีข้อโต้แย้งตลอด ดังนั้นอดทนให้เขาไปถึงจุดหมายก่อน ค่อยแสดงความคิดเห็นจะดีกว่า
2. ฟังให้จบ อย่าเพิ่งคิดแทน
ผู้หญิงเราชอบเดานั่นเดานี่ระหว่างผู้ชายจึงเข้าใจไขว้เขว เช่นเขาพูดว่า “ผมอยากได้รถยนต์มือหนึ่ง มันดีจริงๆนะ” คุณอาจตีความว่า “กำลังจะขอฉันใช้เงินก้อนโตล่ะสิ” ทั้งที่เขาอาจหมายถึง “มันประหยัดน้ำมันและไม่เสียจุกจิก คิดแล้วคุ้มกว่ารถกระป๋องคันเดิมตั้งเยอะ” ก็ได้
3. ให้เขารู้ว่าคุณเข้าใจเขา
บางอย่างฟังแล้วไม่เห็นด้วย แต่ไม่สำคัญเท่ากับทำให้เขาเห็นว่าคุณเข้าใจในเหตุผลที่เขาอธิบาย เห็นด้วยหรือไม่เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
4. สัมผัสเขาขณะที่ฟัง
การจับมือ นั่งใกล้ๆหรือวางมือบนแขนเขาช่วยให้เขารู้สึกใกล้ชิดและอุ่นใจมากขึ้น ใช้ได้ผลดีมากตอนทีอยากให้เขาคลายความในใจ
5. อย่าคาดหวังให้เขาพรั่งพรูอารมณ์
อย่างที่บอกว่าเขาถูกสอนมาให้เก็บความรู้สึก มิเช่นนั้นจะมิใช่ “ผู้ชาย” ดังนั้นถ้าเขาพูดว่า “ผมก็ไม่อยากให้เป็นอย่างนี้หรอก” นั่นก็หมายความว่า “ผมเสียใจ” แล้วล่ะ