ตีความหมายภาษากายของผู้ชายกันเถอะ

วิธีง่ายๆในการทำความรู้จักตัวตนที่แท้จริงของผู้ชายคือ การลอบสังเกตและวิเคราะห์ภาษากายของผู้ชาย

ความหมายภาษากายของผู้ชาย

วิธีนี้แม่นยำมากเวลาที่ใช้ในการทำธุรกิจ แถมยังเวิร์คกับการเข้าสังคมอีกด้วย ข้อควรระวังคือแต่ละท่านั้นอาจต้องดูสถานการณ์แวดล้อมประกอบด้วย และไม่ควรนำมาใช้ตัดสินนิสัยใจคอของเขาทั้งหมด แค่เอาไว้ดูปฏิกิริยาของเขาต่อสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นขณะนั้นแค่นั้นเอง

ท่านั่ง

– เขานั่งบนเก้าอี้แล้วเอนหลังพิงในท่าปกติหรือเปล่า ท่าที่ดูสุขุมระมัดระวังแบบนี้เป็นการพยายามแสดงความเหนือกว่าและแสดงว่าตัวเองพิเศษ นอกจากนั้นยังเป็นการปกป้องตัวเองและป้องกันการจู่โจมด้วย

– เขาเอาขาข้างหนึ่งพาดไว้บนพนักเก้าอี้หรือเปล่า นั่นแสดงว่าเขากำลังบอกให้โลกรู้ว่าเขาสบายดีและผ่อนคลาย สามารถควบคุมทุกอย่างไว้ในกำมือได้ คำถามคือ เขาผ่อนคลายจริงๆหรือว่ากำลังสร้างเกราะป้องกันความไม่มั่นคงที่อยู่ภายใน

– เขานั่งในท่าเอาขาไว้กันแล้วเอามือไว้หลังศรีษะหรือเปล่า นี่คือท่าคลาสสิคที่แสดงถึงความเบื่อหน่ายหรือความมั่นใจในตัวเองสุดๆ แต่ก็ยังมีความนัยอีกประการแฝงอยู่คือ เขากำลังเปิดเผยบริเวณหน้าอก ซึ่งเป็นอาการของสุนัขหรือสัตว์ที่เป็นจ่าฝูงมักทำกัน ในทางตรงข้ามเขาอาจกำลังปกป้องร่างกายตัวเองตั้งแต่ส่วนเอวลงไปก็ได้ อันนี้ต้องลองตัดสินเอาเอง

– เขาเอนตัวมาข้างหน้านิดๆ แขนและขาผ่อนคลาย แสดงว่าเขากำลังวางเบ็ดล่อเหยื่อ เขาจะยอมรับเราและปฏิบัติกับเราอย่างเท่าเทียม หากเราปฏิบัติกับเขาเช่นเดียวกัน

ท่ายืน

– เขายืนเท้าสะเอวหรือเปล่า ท่านี้แสดงถึงความมีอำนาจเหนือกว่า นอกจากนั้นยังแสดงถึงความมั่นใจสุดๆ การเตรียมพร้อมตั้งรับ หรือความโกรธที่แฝงอยู่ข้างใน

– เขายืนกอดอกหรือเปล่า ท่าที่ดูปกป้องตัวเองนี้แสดงถึงความไม่ไว้วางใจ เขาจะไม่เปิดรับจนกว่าจะแน่ใจว่าเราควรค่าแก่การที่เขาจะทุ่มเทพลังงานและความสนใจให้

– เขาวางมือทั้งสองข้างไว้ข้างหลังหรือเปล่า ถึงแม้ท่านี้จะไม่ปรากฏวี่แววของความก้าวร้าวเลยสักนิด แต่ก็เป็นท่าที่แสดงถึงการที่คนๆนั้นสามารถควบคุมสถานการณ์เอาไว้ได้แบบเต็มร้อย

– เขายืนปล่อยแขนไว้ข้างตัวตามสบายหรือเปล่า นี่คือความสงบสุขุมและความมั่นใจ ท่านี้แสดงถึงคนที่มั่นคง พร้อมที่จะเปิดรับ และพูดจาอย่างจริงใจ