เดี๋ยวนี้ไม่รู้เป็นไง “อารมณ์รัก” ของผู้คนชักร่อยหรอลงทุกวัน (หมายถึงรักอย่างใสซื่อและรักอย่างไม่มีเงื่อนไข ไม่ใช่รักแบบวูบๆวาบๆนะ) ตรงข้าม “อาการใคร่” กลับกำเริบเหิมเกริมหนัก จนมีข่าวเรื่องชวนกันไปเมกเลิฟ แก้ผ้าล่อนจ้อนเพื่อเบียดเสียดกันน่ะ….อู้หู มีอัตราเพิ่มขึ้นจนเกินบรรยายเชียวนะ
4 ข้อ อย่าทำ (ถ้ายังอยากให้รักยืนยง)
เห็นผลสำรวจตรวจสอบที่แย่งกันรายงานจากหลายสำนัก ฟังแล้วแทบช็อก เพราะวัยรุ่นวัยโจ๋นิยมมีเซ็กซ์กันถี่จัด (ซึ่งที่จริงผู้ใหญ่ก็อาจเป็นงี้ด้วยแหละ) แต่ที่ไม่ธรรมดา คือ ไปทำอย่างงั้นก็ควรรู้จักวิธีป้องกันเอาไว้บ้างน้อ ไม่ใช่ปล่อยให้ท้องเทิ้งขึ้นมา แล้วหาคนรับผิดชอบไม่ได้ เฮ้อ…ยังไงๆ ก่อน “ฮอร์โมนแตก” ควรไตร่ตรองอย่างรอบคอบกันสักนิด
ไม่ใช่อยากทำก็ทำ แต่ขาดความรับผิดชอบ แสดงว่าไม่ใช่มนุษย์ที่ดีนะเอ็ง!
ว่าแล้วสัปดาห์นี้ จึงอยากส่งเสริมให้เกิดความรักสมัครสมานสามัคคีกันเข้าไว้ แบบรักอย่างมีสติ เพราะ ไหนๆ ก็ตกกระไดพลอยโจน…เอ้ยตกหลุมรักกันแล้วนี่นา เอ๊ะหรือที่อยู่ด้วยกันนี่…ที่แท้ไปแย่งเค้ามา…ฮ้า! แต่เอาเหอะ ไม่ว่าจะเพราะอะไร? ขอให้รักกันนานๆ โดยมีข้อเสนอแนะ ดังนี้……
อย่าคาดหวัง
1. อย่าคาดหวังกับความรักมากเกินไป แต่อย่าถึงกับไม่หวังอะไรซะเลย
แม้กูรูมักบอกไว้ว่า ความรักเป็นเรื่องอารมณ์ และความรู้สึกล้วนๆ เอาแน่เอานอนไม่ได้ ดังนั้น จึงอย่าไปคาดหวังมากจนเกินไป แต่ว่ามะ “ไอ้ที่หวังไม่ได้จริงๆ” น่ะคือ คนที่เราไปรักไปชอบ นั่นแหละ เอ้าขืนเค้าเป็นมนุษย์ โลเลก็แย่ดิ่
ส่วน “เลิฟ” ที่เกิดขึ้นในใจเรานั้น คงทนถาวรอยู่ในซอกหลืบของ หัวใจกันอยู่แล้วจริงม้า ทว่า บางคนดูดู๊ดู แหมไม่น่าเป็นคนหลายใจได้เล้ย เพราะเห็นติ๋มๆ ออกหยั่งงั้น…ที่ไหนได้ โอ้โห สะสมกิ๊กซะจน พอคนดีๆ อย่างพวกเรากะจะไปเลิฟเค้า หากรู้ความลับนี้ก็เปลี่ยนใจดีกว่าวะ ขืนรักฝ่ายที่หลายใจ, เจ้าชู้หรือลีลาเยอะ, ลูกเล่นแยะ ควรหลีกทางบ๊ายๆจากเค้ามาซะเหอะ เชอะใช่ว่า เราจะหาใหม่ให้จ๊าบกว่านี้ไม่ได้…นี่หว่า
อย่าอายที่จะขอโทษ
2. อย่าอายที่จะเอื้อนเอ่ยคำว่า ขอโทษ… ถ้าเราเป็นฝ่ายทำผิดจริง
ไอ้คนประเภทขี้เก๊กหรืออีโก้สูง และไม่ยอมลดราวาศอกให้แฟนเลยแม้แต่นิดเดียวน่ะ ไม่เห็นน่าพิสมัยคู่ควรที่จะอยู่กันต่อไปเลย เพราะเค้า (คนขี้เก๊ก) ไม่รู้รึว่า ใครๆก็ทำผิดได้ ทุกคนล้วนผ่านประสบการณ์ทั้งในส่วนที่ทำถูก และทำผิดมาแล้วทั้งนั้นแหละ ขืนแฟนผู้ใดคิดว่า “ข้าถูกเสมอ ส่วนเอ็งน่ะผิดตลอด” อื้อหือแล้วใครจะอยู่กะมันยืดฟะ หยั่งงี้หากมีเรื่องให้ต้องตกลงกันเมื่อไหร่ เค้าก็จะเสนอด้านที่เค้าคิดว่าเค้าถูกตลอดเวลา จนแฟนไม่ต้องอ้าปากพูดอะไรเลยแหละ! แต่คนรักหรือกิ๊กประเภทนี้น่ะ กลับเหมาะสำหรับผู้ที่ไม่อยากใช้สมองให้สิ้นเปลือง และยอมเป็นเบี้ยล่างของเค้าน่ะซี
ระวังอารมณ์
3. อย่าปล่อยให้อารมณ์อยู่เหนือความรัก
ข้อนี้ไม่เหมือนข้อแรกหรอกนะ เพราะการปล่อยอารมณ์ให้อยู่เหนือรัก ก๊อเช่น เกิดคู่กิ๊กหรือคู่เลิฟมีความเห็นต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งไม่ตรงกันขึ้นมาสักอย่าง เกิดฝ่ายนึงชอบรถสีแดง อีกข้างชอบรถสีเหลือง แล้วเผอิญกำลังตัดสินใจว่าจะซื้อรถอยู่พอดี
มีหวังคงได้ทะเลาะกันแน่ ว่าจะซื้อสีแดงหรือสีเหลืองดี? เพราะมีเงินซื้อแค่คันเดียวอ่ะดิ่ โถ…ถ้ามีเงินเหลือเฟือเรื่องแค่นี้คงไม่อารมณ์เสียใส่กันหรอก เอ้า หากมีเงิน “ใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมด” ละก็ ปัญหานี้แก้ได้ง่ายมาก ด้วยการซื้อรถซะ 2 คัน คันละสีซะเลย ทีนี้จะได้มีของใครของมัน ยิ่งส่ออาการทำให้ห่างเหินกันไปใหญ่…อ้าว?
ดังนั้น จำไว้นะจ๊ะ ถ้ายังอยากรักกันต่อไป ขอให้เลิฟอย่างสมูท (ราบรื่น) ไว้ก่อน ด้วยการ อย่าปล่อยให้อารมณ์ของตัวเองเป็นใหญ่เหนือความต้องการของแฟนหนู น่ะซี ไม่งั้น คาถาครองคู่เค้าจะบอกไว้เรอะ ว่ามี แฟนต้องอดทน หากเค้าร้อน เราต้องเย็น…ไง
อย่าคาดคั้น
4. อย่าคาดคั้นหาคำตอบในบางปริศนาจากคนรัก
เพราะการคันคะเย้อ เอ้ย….ชอบรบเร้าอีกฝ่ายน่ะ แทนที่เค้าจะเห็นว่าน่ารัก ตรงข้ามอาจน่าเตะ, น่าถอง และน่าเหยียบก็ได้
อย่างคำถามที่ว่า คุณรักชั้นแค่ไหน? อื้ม…จะให้ตอบยังไงเนี้ยะ แค่ซักไซ้ไล่เรียงว่า รักชั้นรึเปล่า? แค่นี้ก็ไม่มีใครอยากตอบแระ เพราะหากไม่รักแล้วจะยอมอยู่ด้วยเรอะ อีกอย่าง ถ้าไม่รักก็คงไม่ยอมทำนู่นทำนี่ให้ ทำซะจนเหมือนอีกฝ่ายเป็นเบบี๋ไปแล้วน่ะซี
อ้อขอหักมุมพูดถึง พวกชอบเล่นตัว หน่อยเหอะ โดยเฉพาะพวกที่คิดว่าชั้นสวย ชั้นหล่อ ชั้นมีความสามารถ ชั้นมีฐานะ แล้วเวลา “สมาชิกพรรคกระยาจกอย่างเราๆ” ไปหลงใหลได้ปลื้มชนิดรักใสๆ ทุกห้องหัวใจให้เธอ แต่เค้า (พวกถือตัวและเล่นตัวนั่นแหละ) ทำเป็นไม่แยแส ทั้งๆที่เราบอกรักก็แล้ว, แสดงความเลิฟอย่างที่ไม่เคยคิดว่าจะทำให้ใครก็แล้ว อาจยังไม่ได้คำตอบจากเค้าซะทีว่าจะยอมเป็นแฟนด้วยหรือไม่? ก็จงรู้ไว้เหอะว่า เค้าอยากรอว่าจะมีเหยื่อที่ดีกว่าชาวกระยาจกอย่างเราๆมาจีบเค้าอีกรึเปล่าน่ะซี
ฉะนั้น ใครที่คอยดอกฟ้า (ที่อาจเป็นหญิงหรือชายก็ได้) อยู่ หากรอ ร้อ รอ รอจนนานเกิน ที่ใครคนหนึ่งจะรอรักจากอีกคนนึงได้แล้วละก็ แล้วจะไปรออีกทำไมยะ โลกนี้ยังมีคนเหมาะสมกะเราอีกมากอย่าลืมสิ บางทีการไปรักคนที่ไม่เหมาะกะเรา หรือเราไม่เหมาะกะเค้า ย่อมไม่ใช่เนื้อคู่กันอยู่ดี ดังนั้น เลือกที่พอดีๆ ไม่มากเกินและไม่น้อยไป “รัก” ก็จะคงทนไปเองละฮ้า.
@@@
ที่มา นสพ.ไทยรัฐ