ความเหงาก็มีข้อดีเหมือนกันนะ

หลายคนอาจจะนึกถึงข้อดีของความเหงากันไม่ออก จริงๆ แล้วมันก็เป็นเรื่องการมองต่างมุม ที่เชื่อว่าทุกอย่างมีทั้งข้อดีและข้อเสียเช่นกัน เหมือนกับเหรียญที่มีสองด้าน ความเหงาก็มีข้อดีเหมือนกันนะ

เมื่อเราเหงา เราได้อะไร ?

ได้อยู่กับตัวเอง

เวลาที่ทำงาน ยุ่งวุ่นวายโน่นนี่ บางครั้งเราไม่เคยได้ใส่ใจตัวเอง เพราะต้องจมอยู่กับความเร่งรีบ แต่เวลาเหงา เป็นเวลาที่ทำให้เราได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น ได้ดูแลตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจ ได้คิดย้อนกลับไปถึงเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น ได้ทบทวนสิ่งต่างๆ

ได้ใส่ใจสิ่งเล็กๆ น้อยๆ รอบข้าง

เวลาเหงาเราอาจจะสังเกตเห็นสิ่งที่ไม่เคยใส่ใจมาก่อนก็ได้ เช่น ต้นไม้หน้าบ้านที่เราเกินผ่านทุกวันแต่กลับไม่เคยใส่ใจ หนังสือเล่มใหญ่ที่ซื้อมาเพราะลดราคาแต่ไม่ได้อ่านสักที ได้รู้ว่าตัวเองมีรองเท้าพอให้คนทั้งซอยใส่

เกิดงานอดิเรกใหม่ๆ

เวลาเหงาใครๆ ก็ต้องหาอะไรทำ และ “อะไรๆ” ที่ทำให้หายเหงานั้นเอง อาจจะเป็นไอเดียใหม่ๆ ทั้งที่ปรับใช้กับอาชีพคุณได้ หรือเป็นอาชีพเสริมได้เลยก็มี เพราะบางคน “แค่ทำแก้เหงา” แต่รวยไปหลายรายแล้วนะคะ

เมื่อเหงา เราควรทำอะไร

หลายคนเวลาเหงาก็ไม่รู้ว่าจะทำอะไร พอตกเย็น อากาศเริ่มเศร้าก็พาตัวเองไปเข้าผับ กิน เที่ยว เมา แล้วก็พบว่าตื่นมาตอนเช้าก็ยังไม่หายเหงาสักที ชีวิตแบบนี้เรียกว่าใช้หนทางแก้เหงาที่ไม่ถูกต้อง ไหนๆ คนเราก็ต้องเหงามันทุกคนอยู่แล้ว มาดูวิธีแก้เหงาแบบสร้างสรรค์กันดีกว่าค่ะ

เหงาหน่อยๆ – หาเพื่อนคุย

ผู้คนที่ยามคุณยุ่งกับงานแล้วละเลยพวกเขา เมื่อยามเหงา ลองหันกลับมามองดูนะคะ ไม่ว่าจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ท่านอาจจะคุยไม่ค่อยเก่ง อาจจะตามเทรนด์ได้ไม่เก๋เท่าคุณ แต่ท่านก็เป็นคนที่รู้ใจคุณไม่น้อยไปกว่าตัวคุณเองแน่ๆ ค่ะ เพื่อนเก่าสมัยเรียนมัธยมหลายคนที่คุณเคยสนิทด้วย นานแค่ไหนแล้วคะที่ไม่ได้โทร.หาพวกเขา หรือแม้แต่ลูกน้องในที่ทำงานที่วันๆคุณเอาแต่สั่งหรือจิกใช้ ลองเปิดอกคุยกับพวกเขาบ้าง คุณอาจจะได้เรียนรู่เรื่องราวที่ไม่น่าเชื่อก็เป็นได้

เหงาปานกลาง – ทำความสะอาดบ้าน

“บ้านคือวิมานของเรา” อาจจะฟังดูเก่าไปหน่อยแต่ก็เป็นความจริงอยู่เสมอนะคะ เพราะบ้านหรือห้องที่เราอยู่เป็นสิ่งแวดล้อมที่ใกล้ตัวเราที่สุด ที่สำคัญสภาพของห้องหรือบ้านยังบ่งบอกถึงสภาพจิตใจและร่างกายของผู้อยู่อาศัยอีกด้วย ถ้าห้องรกไม่เป็นระเบียบ ก็จะหมายถึงจิตใจที่สับสน ยุ่งเหยิง เพราะฉะนั้น เมื่อเหงาเมื่อไหร่ ก็ให้ออกแรงจัดห้องดีกว่าค่ะ ได้หายเหงา ได้ประโยชน์ด้วย

เหงาสุดๆ – ทำเพื่อสังคม

ฟังดูยิ่งใหญ่มากมายสำหรับสาวๆ ออฟฟิสอย่างเราๆ แต่เมื่อเกิดเหงามากมายเมื่อไหร่ให้เริ่ม “ให้” กับผู้อื่นทันทีค่ะ ก่อนที่จะจิตตกกันไปใหญ่ ลองไปบริจาคหรือเลี้ยงข้าวเด็กกำพร้า เด็กพิการ ตามบ้านสถานสงเคราะห์ต่างๆ เชื่อแน่ค่ะว่าวิธีนี้หายเหงา หายจิตตกเป็นปลิดทิ้งแน่ๆ เมื่อคุณได้มองไปในดวงตาเด็กๆ ได้หัวเราะไปกับพวกเขา ได้เห็นสีหน้ายามมีความสุข คุณจะรู้ได้ทันทีค่ะว่าคุณไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกใบนี้ และยังมีอีกหลายคนที่ขาดทั้งความรัก ความเอาใจใส่ คุณแค่เหงาแค่นี้เอง…เรื่องมันจิ๊บๆ

ที่เสนอไปเป็นแค่แนวทางแก้เหงาแบบสร้างสรรค์เล็กๆ น้อยๆ เชื่อแน่ว่ายังมีวิธีอีกร้อยแปดที่ช่วยให้คุณแก้เหงาได้ โดยไม่หงอยไปตามๆ กัน แต่ไปนี้ถึงแม้เราจะหนีความเหงาไม่ได้ ก็เปลี่ยนมันเป็นความสุขได้ง่ายๆ จริงไหมคะ?

by Daaw Chonlada ที่มา www.chicministry.com