เชื่อเถอะค่ะคุณขา ผู้ชายร้อยทั้งร้อยน่ะต่อให้แน่แค่ไหนก็หัวปักหัวปำกับ มารยาหญิงที่เม้าท์กันมาหลายชั่วอายุคนว่ามีถึงร้อยเล่มเกวียน .. หนุ่มๆ มาอ่านเจอตรงนี้จะเถียงคอเป็นเอ็นหัวเป็นลูกชิ้นศรีย่าน ก็ตามใจเขาเถอะค่ะ โธ่เอ๊ย… พอเจอเข้ากับคำหวานออดอ้อน ออเซาะ ปรนนิบัติพัดวี หยอดเสียงหัวเราะคิกคักกับตลกซ้ำซากของเขาบ่อยๆ . . . เอ๋อทุกรายค่ะ
หญิง ยุคใหม่เป็นตัวของตัวเองอย่างเรา เก่งกาจสารพัดทั้งงานนอกบ้านและในบ้าน รับผิดชอบเยี่ยม วินัยยอด มันสมองปราดเปรื่องจนน่าจะได้รางวัลโนเบล จะให้ลดศักดิ์ศรีทำตัวเป็นนางบำเรอได้ยังไง้ !! . . . ถ้ารักชั้นก็ต้อง love me love my dog farm ไม่ใช่ให้ชั้นทำตัวเป็นคนอื่น . . . พูดจบทุบโต๊ะเปรี้ยงยืนยันความเห็นเดิม แฮ่..น่ากลัวจริงเจ๊
มารยาหญิง.. สักเล่มเกวียนก็พอ
มาดมั่นอย่างนี้อาจเป็นเพราะเราติดภาพพจน์ “ผู้หญิง” ในค่านิยมตะวันตกหรือเปล่า ที่เห็นดีเห็นงามว่าผู้หญิงควรเป็นตัวของตัวเอง มีความมั่นใจ แกร่ง กล้า และยืนบนเรียวน่องของตัวเองได้ ชีวิตไม่ได้ขึ้นอยู่กับความปรานีของสามีอีกต่อไป . . . ดีค่ะที่เป็นตัวของตัวเอง เพราะมันน่าหวาดเสียวหากมัวแต่พึ่งพาสามี เกิดวันดีคืนดีเขาบอกเธอมีค่าเป็นศูนย์จะกลับมาพึ่งพาตัวเองลำบาก
แต่ผู้หญิงเราบางครั้งก็ล้ำเส้นการเป็นตัวของตัวเองไปสู่ยึดตัวเองเป็นที่ตั้ง และ “มั่นใจ” ไปสู่ “แข็งกร้าว” จนลืม “อ่อนหวาน” (ซึ่งไม่ได้แปลว่าอ่อนแอซักหน่อย น่าจะหมายถึงความอ่อนโยน นุ่มนวล . . . นะคะ นะคะ) พอแข็งกร้าวเสียแล้ว ครั้นจะกลับมาใช้มารยาหญิง ภูมิปัญญาดั้งเดิมของเราก็ประดักประเดิด เสียฟอร์ม เนี่ย . . . ถึงได้อดใช้เครื่องมือชั้นดีในการผูกใจสามี (ปล่อยให้ผู้หญิงอื่นเขาใช้ พอได้ผลก็ไปว่าเขา)
วันนี้เลยมาชวนกันปัดฝุ่น มารยาหญิง ที่มีซุกซ่อนอยู่ แค่หยิบมาใช้ซักเกวียนสองเกวียน เริ่มจากของยากๆ ก่อนดีกว่า ถ้าผ่านจะได้ไปโลด
ออดอ้อน ออเซาะ
ต้าย . . . วัยนี้มาให้ชั้นทำหน่อมแน้ม ออดอ้อนออเซาะ !! อย่าเพิ่งมองการพะเน้าพะนอในแง่ร้ายสิคะ วัยไม่เกี่ยว แล้วใครที่คิดว่าหญิงห้าวไม่สามารถ… โฮะ โฮะ ประมาทคู่ต่อสู้ไปหน่อยแล้ว คือว่าเพื่อนสาวห้าวของอิชั้นคนนึงนะคะ เธอน่ะทั้งห่าม ทั้งห้าว ตัวใหญ่ ปากกัด ไม่มีส่วนใดที่เรียกว่าหญิงหวานเลย แต่เห็นเวลาเจ้าหล่อนอ้อนเหยื่อแล้ว พวกหญิงกว่าอย่างเราถึงกับนะจังงัง เหยื่อรายนั้นก็ตกเป็นของเธอมาตลอด 10 กว่าปี ทำใจกล้าถามเธอเพราะความจำเป็น(ในการเขียนเรื่อง) เจ้าหล่อนเผยไต๋ว่า “ชั้นใช้จุดขัดแย้งในตัวมาเป็นจุดเด่น ใครจะคิดว่าชั้นทำได้ แล้วมีรึเขาจะไม่ประทับใจ แล้วชั้นน่ะอ้อนทีเล่นทีจริงตลกบ้าบอไปด้วย จับไม่ได้ไล่ไม่ทัน งงอยู่ก็เสร็จเรา พูดดีด้วยน่ะเขาชอบอยู่แล้ว หล่อนก็รู้เขาน่ะกิมจิจะตาย ยังพาชั้นไปอิตาลี่มา 2 รอบ”
ความอ่อนหวานออดอ้อนต้องหมั่นฝึกใช้เป็นประจำ
ให้เป็นความเคยชินค่ะ ฝึกให้ใจอ่อนโยนจะได้อ่อนหวานแบบเป็นธรรมชาติ บัดเดี๋ยวดีบัดเดี๋ยวร้ายไม่จริงใจนะคะ ปกติธรรมดามีแต่… “นี่ อย่างกนักเงินทอง ให้ชั้นมั่ง ไม่ให้ก็ไปจ่ายหนี้บัตรเครดิตชั้นแสนห้าแล้วกัน” วันดีคืนดีอยากให้เขาทำอะไรให้ ก็ลุกขึ้นมาหยอดคำหวานปุบปับ นอกจากเขาไม่หลงใหลแล้วยังจะขนขัวลุก เขาสยองแน่ เพราะธรรมดายังโหดขนาดนี้ นี่ต้องเป็นเรื่องคอขาดบาดตายแน่ถึงมาออเซาะ
เอาใจในยามปกติสุข
วันละเล็กวันละน้อย การทำบ่อยๆ จะช่วยให้เขาสบายใจเมื่ออยู่กับเรา แล้วคนเราจะซึ้งใจกันที่สุดในยามเจ็บป่วยนี่แหละ ถ้าได้ดูแลปรนนิบัติเขาเต็มที่ ถึงแม้คุณพี่เขาแมนมากจะล้มมิล้มแหล่แต่จะไปหาหมอคนเดียว แทนที่จะบอกเขาตามสภาพความเป็นจริงว่า “ยืนยังไม่ไหวเลยจะไปได้ไง” ก็เปลี่ยนเป็น “ไปด้วยสิคะเป็นห่วงจัง รออยู่บ้านไม่สบายใจน่ะค่ะ” เห็นมั้ยว่าเราไม่ได้ลดความแมนของเขาลง แล้วเขายังต้องแมนต่อด้วยการปกป้องความรู้สึกเราอีก
ชื่นชมให้คนทั้งโลกได้รับรู้ว่าเขาเก่ง
ใครๆ ก็ชอบเป็นคนเก่ง เขาเองก็หนีไม่พ้นหรอกหรอกน่า อยากเป็นคนเก่งเนี่ย ครั้นจะชมเช้าชมเย็นทุกเรื่องกันซื่อๆ ว่าเขาเก่งอย่างโน้นอย่างนี้ มันก็ทื่อมะลื่อไปหน่อยนะว่ามั้ย เลือกชมความสามารถความดี หรือความหล่อเหลาที่เขาภูมิใจนักหนา เวลานั่งตั้งวงคุยกับคนอื่นๆ สบโอกาสก็บอกเขาว่าไหนเล่าเรื่องนั้นให้ฟังหน่อยสิ มันเป็นเรื่องเฮก็จริงจ้ะ แต่ว่าในนั้นมีสอดแทรกวีรกรรมของคุณพี่ไว้ อย่างนี้ค่อยเนียนกว่าการชงลูกให้เขาอวดสรรพคุณตัวเองโต้งๆ
หึงเล็กๆ แต่พองาม
ถ้าเราไม่ใช่คนขี้หึงนะ มุขเสแสร้งแกล้งหึงหวงนานๆ ครั้งก็เข้าท่าค่ะ แหม..มันกระหยิ่มในใจยังไงไม่ทราบ รู้สึกว่าเป็นที่ต้องการและมีค่าขึ้นมาทันทีเวลาที่มีคนออกอาการหวงให้เห็น บ้างเล็กๆ น้อยๆ มุขนี้ถ้าใช้บ่อยๆ ก็จะเกิดผลเสียตามมาเหมือนกินยาเกินขนาด
ทำตัวเป็นสาวพราวเสน่ห์
ไม่ได้หมายความว่าต้องแต่งหน้าให้หนาตึ้บกว่าเก่า ลงทุนเจ็บตัวสวยด้วยแพทย์จนไม่เหลือเค้าหน้าเดิม หรือแต่งตัวหรูเริ่ดอยู่ตลอดเวลา ความพยายามที่มากเกินไปคนอยู่ด้วยสัมผัสได้ว่าเราหมกมุ่นกับมันมากจนน่ากลัว โธ่ . . . เวลาผู้หญิงวุ่นวายกับเรื่องสวยๆ งามๆ ของตัวเองมากๆ น่ารำคาญออก ทำตัวสบายๆ หน้าตาแจ่มใส แต่งตัวสวยๆ บ้าง ให้เขาเห็นว่า “เออเมียเราก็สวยแฮะ” ผมเผ้าเข้ารูปเข้าทรง ถ้าเมื่อก่อนเคยแต่งหน้าอยู่ก็อย่าปล่อยปละละเลยเสียทีเดียว มีโอกาสก็แต่งหน้าแต่งตาบ้าง เสื้อผ้าอย่าให้แก่ แต่จะกระชากวัยกันเกินงามก็จะน่าสงสารไปซะอีก คิดถึงความสวยในความหมายว่าดูดี ก็จะไม่หลงทางไปเป็นแต่งตัวจัดหรือแต่งตัวไม่สมบุคลิกไง แล้วอย่าลืมเครื่องแบบในห้องนอน ว่าต้องมีเซ็กซี่กันบ้างละค่ะที่รัก
ทำตัวน่าคบกับคนรอบข้าง จะพี่ๆ น้องๆ พ่อแม่ เพื่อนฝูงของเขา ก็อย่าลืมโปรยเสน่ห์ให้ทั่วถึง ถ้าเราทั้งดูดีน่ารักและน่าคบหา คนในหมู่นี้จะคอยเป็นฐานเสียง ชมเราให้เขาฟัง (ถ้าเขาไม่ขี้อิจฉา) เขาปลื้มนะคุณที่ได้ของดีมีค่ามาไว้กับตัว