มีหลายคนที่เป็นโสดโดยตั้งใจ และมีอีกหลายคนที่เป็นโดยไม่ได้ตั้งใจ หากเมื่อพยายามค้นหาเหตุผล…กลับพบว่ามันยากยิ่งกว่างมเข็มในมหาสมุทร ลองมาดูกันว่าในแต่ละหัวข้อเหล่านี้ คุณเข้าข่ายข้อไหนบ้าง บางทีนี่อาจเป็นเหตุผลที่ทำให้คุณอยู่เป็นโสดมาจนวันนี้
สาเหตุที่ทำให้คุณยังเป็นโสด
“รู้มั้ย ..อะไรที่ทำให้คุณยังโสด?”
เพราะคุณหดหู่ หมดหวัง
คุณมองคนอื่น แล้วคอยคิดแต่ว่า ฉันสวยสู้เธอคนนั้นไม่ได้ ฉันทำงานก็ไม่เก่ง ฉันสมองไม่ดี ฯลฯ ทุกอย่างของคุณเป็นต้องด้อยกว่าคนอื่นเสมอ ถ้าหากคุณมองตัวเองเช่นนั้น แน่นอนว่าคนรอบตัวก็อดใจไม่ไหวที่จะคิดเหมือนกัน ก็แล้วใครจะมาเห็นคุณค่าของคุณกันล่ะ ลองคิดให้รอบคอบ มนุษย์ทุกคนย่อมมีความแตกต่าง คุณอาจจะไม่เก่งด้านนี้ แต่ก็ต้องมีด้านอื่นๆ ที่คุณมีความสามารถ ค้นหาตัวเองให้เจอ และรู้จักคุณค่าของตน เพื่อให้คนอื่นๆ รอบตัวได้รู้สึกด้วย
เพราะคุณกลัวการผูกมัด
เปอร์เซ็นต์ ในประเทศสหรัฐอเมริกาอยู่เป็นโสดอย่างมีความสุขดี พวกเธอเห็นว่า การมีคนรัก… เท่ากับเป็นการสร้างความผูกมัด ผูกพัน และอาจนำมาซึ่งความเจ็บปวดในอนาคต สู้อยู่คนเดียวมีความสุขกับตัวเองไม่ดีกว่าหรือ อย่างไรก็ตาม บางครั้งบาง คราว ความรักก็ต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวด อย่างที่ประโยคจากหนังสือเจ้าชายน้อย เขาว่าไว้ ‘เมื่อไหร่ที่คุณสร้างความผูกพัน เมื่อนั้น คุณกำลังเสี่ยงต่อการเจ็บปวด’ แต่ที่แน่นอนที่สุดคือ รักนั้นย่อมนำมาซึ่งความสุขด้วยเช่นเดียวกัน โรคกลัวการผูกมัดเกิดขึ้นในกลุ่มผู้หญิงปัจจุบันอย่างแพร่หลาย ผู้หญิงสาวกว่า 50
เพราะคุณชอบฟังแต่เสียงตัวเอง
คุณใช่คนแบบนั้นหรือไม่ คุณชอบที่จะพูดๆๆๆๆ แต่พอคนอื่นเริ่มจะพูดบ้าง คุณกลับไม่ใส่ใจในสิ่งที่เขาต้องการบอกเล่า… สิ่งนี้คือจุดสำคัญของความรักเลยทีเดียว เพราะความรักคือการใส่ใจกันและกัน เมื่อไหร่ที่คุณใส่ใจคนอื่น เมื่อนั้นคุณย่อมได้รับความรู้สึกดีๆ กลับมา ส่วนการจะทดสอบว่าคุณพูดมากเกินไปแล้วหรือไม่ ลองคิดให้ถี่ถ้วนว่าคุณ ‘รู้จัก’ คนอื่นมากแค่ไหน ตอนนี้คนที่คุณแอบชอบกำลังสนใจอะไรอยู่ หรือมีปัญหาอะไรบ้างหรือเปล่า ถ้าหากคุณตอบไม่ได้ อาจถึงเวลาที่คุณควรเรียนรู้ที่จะฟังคนอื่นให้มากขึ้น เพื่อให้ความรักของคุณสมหวัง
เพราะคุณขี้อายเกินไป
ถ้าคุณอยู่ในข้อนี้… เชื่อว่าคุณคงปรับตัวยากสักหน่อย คุณเป็นคนชอบเก็บตัว ไม่ชอบพูดคุยกับคนแปลกหน้า ไม่ชอบอยู่ในกลุ่มคนมากๆ ด้วยเหตุผลนี้เองทำให้คุณค่อนข้างจะหาความรักได้ยาก ถ้าหากอยากมีรัก ลองเริ่มต้นด้วยการหาสิ่งที่ตัวเองสนใจ เช่น คอร์สเรียนทำอาหาร หรือทำขนม เมื่อได้ใช้เวลาส่วนตัวกับสิ่งที่ชอบอาจช่วยเปิดตาเปิดใจของคุณให้กว้างขึ้น ที่สำคัญ คนที่อยู่ในคอร์สเดียวกันย่อมมีความคิดคล้ายๆ คุณ ทำให้การสนทนาง่ายขึ้น
เพราะคุณชอบควบคุมทุกอย่าง
ผ้า อาหาร คำพูด… คุณกำลังมีปัญหาอย่างหนักแล้วละ ข้อนี้ ทางแก้คือคุณต้องเอาใจเขามาใส่ใจเราให้มากขึ้น อย่าคิดว่าโลกทั้งโลกต้องหมุนรอบตัวคุณ คนทุกคนย่อมมีความคิดความต้องการของตัวเอง เหมือนที่คุณมี… คุณชอบสิ่งหนึ่งมากๆ ไม่ได้หมายความว่าคนอื่นๆ จะชอบเหมือนคุณ เริ่มเรียนรู้ที่จะฟังคนอื่น เปิดใจให้กว้าง และจำไว้ว่า การจะควบคุมคนอื่นได้ คุณต้องเริ่มต้นที่ความเข้าใจ และให้ความรักถ้าหากคุณเป็นจอมบงการ ชอบบังคับให้ทุกคนทำตามคุณเสมอ ไม่ว่าจะเลือกเสื้อ
เพราะคุณคิดแต่เรื่องเงิน
ทุกครั้งที่ออกไปรับประทานอาหารกับหนุ่มๆ คุณไม่แม้แต่จะควักกระเป๋าสตางค์ คุณคิดเสมอ ถ้าหากเขารักคุณจริง เขาต้องเป็นฝ่ายจ่าย จริงอยู่มันอาจเป็นข้อเท็จจริงที่คุณเชื่อ แต่การแสดงน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ไม่ใช่เรื่องเลวร้าย และจะทำให้ภาพลักษณ์ของคุณในสายตาของอีกฝ่ายดูดีขึ้นเสียด้วย ลองนึกดู ถ้าหากเขาต้องเป็นฝ่ายจ่ายอยู่ร่ำไป ในทุกๆ ครั้ง นั่นจะใช่ความรักข้างเดียวหรือไม่ ถ้าหากคุณเองก็สนใจเขา… ก็ควรยอมบ้างเป็นบางครั้ง และบางโอกาส
เพราะคุณอ้วนเกินไป
คุณพอใจเสมอกับคำชมที่ว่า ‘แหม เธอนี่หน้าสวยจังนะ แต่เสียดายอ้วนไปหน่อย’ แล้วหรือ ไม่มีผู้ชายคนไหนที่ชอบผู้หญิงอ้วนหรอก อาจจะมีบ้างก็จริง แต่ก็จำนวนน้อยเต็มที ทั้งนี้ พวกเขาไม่ได้คิดเรื่องความสวยงาม แต่ความอ้วนเป็นการประกาศถึงการไม่ใส่ใจตัวเองของคุณต่างหาก ถ้าหากคุณยังไม่รักตัวเอง ก็แล้วใครจะมารักคุณ… ลองเปลี่ยนแปลงดูบ้าง… เข้าคลาสฟิตเนส รับประทานอาหารที่ดี ดูแลตัวเองบ้าง เชื่อเถอะ นอกจากจะทำให้คนมาใส่ใจแล้ว ภาพลักษณ์ของคุณยังดีขึ้นอีกด้วย
เพราะคุณแสดงออกอย่างโจ่งแจ้ง
สดงให้ใครๆ รู้ว่าคุณพร้อมแล้วที่จะมีความรัก และอยากสานต่อความสัมพันธ์ แต่ความรักไม่ใช่เรื่องของใครก็ได้ และไม่ใช่แค่การใช้คำพูดเท่านั้น ยิ่งคุณแสดงออกชัดเจนเมื่อไหร่ เท่ากับเป็นการปิดกั้นตัวเองมากกว่าเดิม เพราะเมื่ออีกฝ่ายรู้ว่าคุณคิดเช่นไร และเขาให้ความรู้สึกนั้นตอบคุณไม่ได้ เขาก็จะถอยห่างออกไปในที่สุด ทางที่ดี ทำตัวตามปกติของตัวเอง แล้วค่อยๆ เรียนค่อยๆ รู้นิสัยกันและกัน ไป… จะได้ความรักที่จริงจังมากกว่า ไม่ว่าจะพูดกับผู้ชายคนไหน คำพูดของคุณเป็นต้องออกแนว ‘จีบ’ เสมอ
เพราะคุณรักแต่ตัวเอง
คนนั้นก็ไม่ดี คนนี้ก็ไม่เหมาะ ไม่มีใครเลยที่ดีพอสำหรับคุณ ถามตัวเองดูว่า สิ่งที่คุณคิดอยู่นั้น ใช่ความรักแน่หรือ คุณเชื่อว่าตัวเองสมควรได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ก็แล้วอีกฝ่าย คิดเหมือนคุณหรือไม่ การคิดเช่นนี้มีแต่จะบั่นทอนตัวคุณให้แย่ลงในสายตาคนรอบข้าง… เรียนรู้และเข้าใจความรักเสียใหม่ ว่ามันไม่ใช่แค่การติติง… หรือตามหาสิ่งที่ดีที่สุด มันไม่ใช่ว่า ‘เพราะเขาดีพอ คุณจึงจะรัก’ แต่มันเป็นเรื่องที่ว่า ‘เพราะคุณรักเขา เขาจึงดีที่สุดสำหรับคุณ’ ต่างหาก
เพราะคุณทำงานหนักเหลือเกิน
ในแต่ละวัน คุณเอาแต่ใส่ใจสนใจกับงาน คุณไม่มีเวลาไปปาร์ตี้กับใคร ไม่มีเวลาแม้แต่ จะออกไปข้างนอก อาหารยังต้องฝากคนอื่นซื้อขึ้นมารับประทาน ก็แล้วคุณจะมีโอกาสไปเจอใครบ้าง จำไว้ว่า งานคือสิ่งสำคัญก็จริง แต่งานไม่ใช่ทุกอย่างหรอก ยังมีสิ่งที่สำคัญกว่านี้รอคุณอยู่อีกมาก แบ่งเวลาในชีวิตให้ถูกต้อง แล้วคุณจะได้ทั้งความรักและได้งานที่ดีไปด้วยในตัว
เพราะคุณดีเกินไป
ไม่ใช่ความผิดที่คุณจะเป็นหญิงสาวแสนดี แต่ปัญหาก็คือ ความดีเกินไปของคุณนั่นเองที่ทำให้ผู้ชายรอบๆ เริ่มไม่แน่ใจว่าตัวเองจะดีพอสำหรับคุณหรือไม่ คุณไม่เคยทำผิดพลาด อยู่ในกฎในเกณฑ์เสมอ เป็นหญิงสาวผู้สมบูรณ์แบบ เป็นที่ยกย่องเสมอ แต่อย่าเข้าใจผิด ‘ความดีไม่ใช่ความรัก’ และความรักก็ไม่ได้เกิดขึ้นจากความดี เป็นตัวของตัวเองให้มากที่สุดดีกว่าจะเสแสร้งว่าคุณเป็นคนดีที่สุด แล้วคุณจะได้ความรักที่จริงใจเป็นการตอบแทน
เพราะคุณชอบปาร์ตี้
วันๆ คุณไม่เคยห่างจากบาร์ ผับ คุณรู้จักเหล้าทุกแบบ ดื่มได้อย่างคล่องแคล่ว เต้นรำได้ไม่ต่ำกว่าเวลาเที่ยงคืน คุณบอกว่าตัวเองไม่สนใจว่าคนอื่นจะมองคุณอย่างไร แต่ในความเป็นจริงแล้ว เรื่องของภาพลักษณ์ก็คือสิ่งสำคัญเช่นกัน การเป็นสาวปาร์ตี้ เมาหัวราน้ำ ย่อมทำให้ภาพของคุณดูอันตราย ทำให้หนุ่มๆ ขยาด และไม่กล้าเข้ามาสานสัมพันธ์ หรือถ้าหากว่ากล้า ก็ไม่ประสงค์ดีเท่าไหร่นัก
เพราะคุณไม่สวยเลย
รักทุกคนไป แต่การทำตัวเองให้ดูดี มีเสน่ห์ ย่อมดึงดูดใจได้มากกว่าการปล่อยเนื้อปล่อยตัว ไม่ใส่ใจดูแลตัวเอง แม้หน้าตาของคุณอาจไม่เข้าตาใครๆ แต่ถ้ารู้จักตัวเองรู้จักดูแล เลือกหาจุดเด่นมากลบจุดด้อย หัดแต่งหน้านิด เลือกทรงผมที่รับกับหน้า แต่งกายให้สวย และทำตัวให้สดชื่นอยู่เสมอ สิ่งนั้นย่อมทำให้คุณดูจับตาได้เหมือนกันอย่างที่เขาบอกว่า ‘ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง’ นั่นอย่างไร จริงอยู่ที่ว่าความสวยไม่ใช่เหตุผลหลักของความรัก และคนสวยๆ ก็ไม่จำเป็นต้องมีคน
เพราะคุณขี้โมโห
ไม่ว่าอะไรที่อยู่รอบตัว ทำให้คุณหัวเสียได้หมด คุณโกรธทุกๆ อย่าง ทุกๆ สถานการณ์ และพร้อมจะอาละวาดให้ใครๆ ได้เห็นโดยปราศจากการควบคุม การกระทำของคุณกำลังทำให้ผู้ชายเขาแขยงขน รู้ไหม จริงอยู่คุณบอกว่าดีออก ฉันแสดงออกอย่างตรงไปตรงมา ใครรับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ไม่ต้องรับ แต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น ผู้ชายคงอดคิดไม่ได้ว่า… ถ้าเป็นแฟนกัน คงข่มเราแย่ไปเลย… แล้วทีนี้ ใครที่ไหนจะกล้ามาสร้างความสัมพันธ์กับคุณกันล่ะ
เพราะคุณเคยถูกทิ้งมา
และยังไม่พร้อมที่จะมีรักอีกครั้ง เลิกคิดถึงอดีตได้แล้ว… สิ่งที่ผ่านมาแล้ว ก็ให้มันผ่านไป คุณจะเจ็บซ้ำเจ็บซากอยู่ได้อย่างไรตลอดชีวิต ไม่ว่าอย่างไร คุณก็ต้องเดินต่อไปอยู่ดี การปิดตัวเอง เอาแต่จมอยู่กับความรักครั้งเก่า จะทำให้คนดีๆ ที่พร้อมจะเข้ามาในชีวิตของคุณเกิดความหวาดระแวง และไม่กล้าเพียงพอ โดยเฉพาะถ้าคุณ ยังคงคร่ำครวญถึงความทรงจำเลวร้าย คนรักที่ทิ้งคุณไป มันเท่ากับเป็นการประกาศตัวเองว่าตัวคุณไม่มีคุณค่าอะไรเลย และไม่คุ้มค่าพอที่จะมีคนมารักหรือมาใส่ใจเสียด้วยซ้ำ
เพราะคุณไปชอบคนที่เขาไม่ชอบคุณ
คำตอบข้อนี้ชัดเจนที่สุด และเป็นสัจธรรมที่สุด ทั้งนี้ความรักไม่ใช่เรื่องของคนใดคนหนึ่งแต่ฝ่ายเดียว แต่เป็นเรื่องของคนสองคน ถ้าหากคุณไปชอบใครคนหนึ่ง คนที่คุณรู้อยู่แก่ใจว่าเขาไม่เคยชอบคุณ และไม่มีวันจะชอบได้ ก็เท่ากับว่าคุณนั่นแหละที่เป็นคนตัดโอกาสทางความรักของตัวเอง ถ้าหากคุณเกิดไปมีใจให้ใคร แล้วรู้แน่ชัดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ ทางเลือกที่คุณควรจะเลือกคือ ยอมแพ้ซะ ตัดใจ และเริ่มมองหาความรักครั้งใหม่ กับใครก็ได้ที่เป็นคนของคุณ
อ่านแล้วก็ลองคิดดูนะคะว่า ที่คุณโสดอยู่ตอนนี้ ตั้งใจหรือเปล่า ถ้าไม่ ..ก็รีบปรับปรุงตัวนะคะ ก่อนที่มันจะสายเกินไป เพราะเวลาไม่เคยรอใคร และอายุก็ไม่เคยหยุดตามความพอใจซะด้วยสิ