เคยไหมที่เคยบ่นน้อยใจในโชคลาภวาสนาของตัวเอง เคยไหมที่รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจกับชะตาชีวิตที่ไม่เทียบเท่าคนอื่น เคยไหมที่รู้สึกว่าโลกนี้ไม่มีความยุติธรรม…. และพอคิดแล้วถามหน่อยมันสบายใจขึ้นไหม หรือชีวิตมันดีขึ้นหรือเปล่า?! ถ้าไม่….จะคิดเพื่อ??!!
คุณ.. ทำ..เต็มที่ แล้วหรือยัง???
คนเรามักเป็นอย่างนี้ โทษคนอื่น โทษนั่นนี่ โทษดินฟ้า โทษกำพืด โทษพ่อแม่ โทษเพื่อน โทษพี่น้อง โทษคนรัก โทษเพื่อนร่วมงาน โทษเจ้านาย โทษลูกน้อง แต่ไม่เคยหันมามองดูตัวเอง
เพราะคนนั้นทำอย่างนั้น เพราะเขาเกิดมาอย่างนี้ เจ้านายรักคนนั้นมากกว่าเรา ลำเอียง ไม่เคยเห็นความสำคัญ เราไม่มีค่า ไม่มีตัวตน เราถูกมองข้ามเราไม่ได้เลื่อนตำแหน่ง ไม่ได้เงินเดือนขึ้น ไม่ได้โบนัสเหมือนคนอื่นเขาเพราะเจ้านายไม่รัก ทำดีไม่ได้ดี จับกลุ่มนินทาสุมหัว และอยากจะรู้ว่าคนอื่นได้เงินเท่าไหร่ ได้มากกว่าเราไหม ทำไมมันได้มากกว่าเรา ทำเพื่อ….???
ทำแล้วเงินเราได้เยอะขึ้นไหม ทำแล้วงานเราดีขึ้นหรือเปล่า ทำแล้วเจ้านายเห็นผลงานที่ทำใช่ไหม ทำแล้วเราสบายใจสุดๆ ถ้าไม่….มันก็เสียเวลามาก!
คนเรามักทุกข์ใจและเสียเวลาไปกับเรื่องของคนอื่นมากกว่าเรื่องของตัวเอง ลองสังเกตดูว่าเราเอาเรื่องของคนอื่นมาเป็นเรื่องของตัวเองเยอะขนาดไหน คอยอิจฉาริษยาคนอื่น ไม่อยากให้เขาได้ดีเกินตัวเองบ่อยแค่ไหน คอยสาปแช่งก่นด่าคนอื่นเกินครึ่งของเวลาที่ควรเอามาสำรวจตัวเองไหม
ทำไมเราไม่เอาเวลาที่ไปสนใจเรื่องคนอื่น มาพัฒนาความสามารถ ศักยภาพของตัวเองให้เต็มที่ล่ะ เอาเวลาที่ไปเพ่งหาความผิดคนอื่น มาแก้ไขความบกพร่องหรือรอยรั่วของตัวเอง จุดอ่อนของตัวเองคืออะไรเคยรู้ไหม อะไรที่เป็นข้อเสียของตัวเอง เคยหามันเจอและคิดจะแก้ไขมันให้ดีหรือเปล่า
เมื่อเราแก้ไขหรือซ่อมแซมตัวเองให้ดีแล้ว เราจะมีกำลังความสามารถและจิตที่สะอาดในการสร้างสรรค์ผลงานที่ดีขึ้น ไม่ขุ่นมัว ไม่มืดดำและคิดแต่เรื่องชั่วๆเพื่อทำลายคนอื่น งานดีๆมันไม่สามารถเกิดจากจิตที่ตกต่ำได้ เหมือนจะปลูกต้นไม้ให้งอกงามสักต้น ไม่ใช่แค่เมล็ดพันธุ์ดีแต่ดินมันต้องดีด้วย!
เมื่อเราได้รับมอบหมายให้ทำงานอะไร จงรับมันมาด้วยความภูมิใจและคิดว่าเจ้านายได้มองเห็นความเหมาะสมให้เราได้ทำงานๆนี้ เพราะฉะนั้นจงทำมันให้ดีที่สุด ทำให้มันสุดความสามารถ อย่ายอมแพ้ง่ายๆ อย่าเพิ่งเอ่ยปากว่า นี่ทำดีที่สุดแล้ว จริงหรือ???
ไม่ต้องตอบฉันหรือตอบเจ้านายของคุณเพื่อแก้ตัวหรือกลบเกลื่อน เพราะคุณเองรู้ดีที่สุดว่าคุณทำเต็มที่แล้วหรือยัง สิ่งหนึ่งที่ฉันอยากจะบอกถึงเคล็ดลับความสำเร็จก็คือ….จงอย่ายอมแพ้ในโชคชะตา!!
อย่าจำนนกับสิ่งที่เราเผชิญง่ายๆ อย่าคิดว่านี่คือสิ่งที่เขากำหนดมาแล้ว เขาน่ะใครถามหน่อย ชีวิตเรา เราก็ต้องทำเอง จะดีไม่ดีก็อยู่ที่ตัวเองนี่แหละ
ชีวิตไม่ได้มีคำตอบเดียว ไม่ได้มีแค่หนทางเดียว มันมีหลายเลี้ยวหลายทาง หลายพาหนะท่่ีใช้ดำเนินไป ทางนี้ไม่ได้ลองทางใหม่ แบบนี้ไม่เวิร์คก็ลองแบบใหม่
เพียงแต่อย่ายอมแพ้อะไรง่ายๆแล้วถอยหลังไปนั่งก้มหน้าหงอยๆในมุมมืด ทุกปัญหามีทางออกและทุกวิกฤตในชีวิตก็นำมาสู่โอกาสใหม่ๆทั้งนั้น อยู่ที่ว่าจะลุกหรือจะล้ม
นักกีฬาอยากชนะยังต้องซ้อมต้องมีวินัย ไม่มีใครชนะต้องแต่ครั้งแรกที่แข่งขันแค่อย่าล้มเลิกไปกลางคันแล้วกัน
คุณรู้ไหมว่าคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตแต่ละคนเบื้องหลังมีปมและมีแรงผลักดันจากเรื่องราวหนักๆในชีวิตทั้งนั้น บ้านยากจนสุดๆ พ่อแม่เลิกกัน จากลาจากคนรัก เจ็บป่วยใกล้ตาย โดนหักหลัง อยู่แบบหมาจนตรอก แต่เขาจะไม่ยอมไง
ในโลกนี้ใครๆ ก็เคยแพ้ แต่สิ่งที่ทำให้คนที่แพ้แตกต่างกันก็คือ คนไหนจะลุกขึ้นมาต่างหาก!!!
กว่าจะได้ฟังเพลงเพราะ คนแต่งต้องเสียน้ำตาจากเรื่องราวชีวิตขนาดไหน กว่าจะได้อ่านหนังสือดีๆ คนเขียนต้องล้มลุกคลุกคลานสักเท่าไร กว่าจะได้ใช้สิ่งประดิษฐ์เจ๋งๆ คนคิดต้องทดลองแล้วทดลองเล่าสักกี่ครั้ง กว่านักกีฬาจะยืนอยู่แท่นชนะเลิศ เขาเคยแพ้มาแล้วกี่ครั้งกี่หน ไม่มีอะไรได้มาถ้าไม่ทำงานหนัก!
ก่อนที่จะก่นด่าใคร ก่อนที่จะโทษใคร หุบปาก หยุดความคิดฟุ้งซ่าน แล้วหันมามองตัวเอง ถามตัวเอง คิดกับตัวเอง และฉุดตัวเองขึ้นมา พร้อมทั้งถามตัวเองว่า
“เราเต็มที่แล้วหรือยัง”
ที่มา http://www.chicministry.com