เรื่องวุ่นๆ ของวัยรุ่นคงหนีไม่พ้นเรื่องราวความรัก ในเมื่อวัยรุ่นอยู่ในช่วงวัยที่สดใส บางครั้งเมื่อความรักไม่ได้ดังใจก็รู้สึกเสียใจ หมอโอ๋ น.พ.สุกมล วิภาวีพลกุล จึงอาสาขอติวเข้มความรักของวัยรุ่นในหนังสือ “ติวรัก…เต็มร้อย ฉบับวัยรุ่น” โดยสำนักพิมพ์เลซี่เดย์
อกหัก .. เป็นประสบการณ์ที่ดีของชีวิต
หมอโอ๋ อธิบาย แจกแจงถึงประเภทความรัก ซึ่งมีทั้งความรักแบบที่ไม่ต้องการความผูกพัน รักที่ปรารถนามาคู่กัน รักที่แบ่งปันความสุข และรักที่ยอมทุกข์เพื่อเธอ พร้อมแนะนำน้องๆ วัยรุ่นว่า ริจะเริ่มรักคนอื่น ต้องเริ่มจากรักตัวเองก่อน คือ
- หวังดีต่อตนเอง พยายามพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้น ดีขึ้น ไม่ทำตัวเสื่อมเสีย
- ยับยั้งชั่งใจ ไม่ประพฤติสิ่งผิด ไม่ทำให้ตัวเองและผู้อื่นเดือดร้อน
- รู้จักปล่อยวาง ยอมรับผลที่เกิดขึ้นหลังจากที่เราทำดีสุดความสามารถแล้ว
- ให้อภัยตนเองเมื่อดำเนินชีวิตผิดพลาด และเรียนรู้ที่จะไม่ทำผิดในครั้งต่อไป
เราต้องนับถือตนเอง รู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าเท่าเทียมกับคนอื่น ตระหนักในศักดิ์ศรีและเกียรติภูมิแห่งตน มีชีวิตอยู่ได้โดยไม่ต้องได้รับการโอบอุ้มหรือพึ่งพิงคนอื่น คนที่นับถือตนเองจะสามารถใช้ชีวิตได้อย่างมีความสุข แม้ในเวลาที่อยู่คนเดียวก็ไม่รู้สึกเหงาหงอย เปล่าเปลี่ยว โดดเดี่ยว อ้างว้าง ว้าเหว่ วังเวงใจ ไร้ที่พึ่ง
คุณหมอโอ๋ยังแนะนำเคล็ดลับการเลือกคู่ว่า “ใช้ความรู้สึกเป็นตัวเลือกว่าชอบหรือไม่ชอบ… แล้วใช้ความคิดตรวจสอบว่าใช่หรือไม่ใช่” การเลือกคู่ครอง อารมณ์ความรู้สึกย่อมมาก่อนเสมอ ความใกล้ชิดสนิทสนมนำไปสู่ความรู้สึกผูกพัน พอคลื่นจิตทั้งสองใจจูนตรงกันแล้ว คราวนี้เป็นส่วนของสมองคิด ใช้วิจารณญาณในการพิจารณาเพื่อตัดสินใจว่า เขาหรือเธอเหมาะสมในการมาร่วมชีวิตกับเราหรือเปล่า เช่น ระดับความรู้ ฐานะ โรคประจำตัว ความรับผิดชอบ วุฒิภาวะ คุณธรรมประจำใจ รูปแบบการดำเนินชีวิตที่สอดคล้องกัน ทัศนคติหรืออุดมคติที่ไม่ขัดแย้งกันจนเป็นอุปสรรคของชีวิตคู่
ส่วนใครคิดที่ว่าอกหักเป็นเรื่องไม่ดี หมอโอ๋ค้านว่า “อกหักเป็นประสบการณ์ที่ดีของชีวิต” ประสบการณ์ที่ดี ไม่จำเป็นต้องทำให้เรามีความสุขสดชื่นเสมอไป หลายครั้งที่ความเจ็บปวดทุกข์เศร้าก็ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นได้ คำว่าดีขึ้นในที่นี้หมายถึงการเรียนรู้ชีวิต มีพัฒนาการทางจิตใจ เข้มแข็งขึ้น รอบคอบในการดำเนินชีวิตมากขึ้น “การจากไปของเขาไม่ได้ทำให้เราแย่ลง แต่ความคิดของเราต่างหาก จำง่ายๆ ว่า ปล่อยวางเป็นตัวหาร ฟุ้งซ่านเป็นตัวคูณ”
และคนที่ชอกช้ำระกำใจกับการอกหักนั้น ไม่ใช่เพราะใครอื่นเลย แต่มาจาก “พฤติกรรมซ้ำเติมตัวเอง” เช่น
1. ซ้ำเติมตัวเองด้วยความคิดทางลบตลอดเวลา
ควรมองโลกตามสภาพความเป็นจริงว่าทุกสิ่งเป็นอนิจจัง ทุกอย่างไม่คงที่ แต่แปรเปลี่ยนไปตามเหตุปัจจัย
2. ซ้ำเติมตัวเองด้วยการอยู่คนเดียว
ควรหากิจกรรมอะไรทำเพื่อให้ใจเราจดจ่ออยู่กับงานนั้น แทนที่จะอยู่คนเดียวปล่อยให้สมองปรุงแต่งไปตามอารมณ์
3. ซ้ำเติมตัวเองด้วยการปิดโอกาสดีๆ ในชีวิต
อย่าจองจำจิตใจของเราด้วยข้อหาที่ยัดเยียดให้ตัวเอง ปลดปล่อยตัวเองจากพันธนาการที่มองไม่เห็นเหล่านั้น
โลกที่สดใสยังเป็นของเราเสมอ
หนังสือดีๆ ควรมีไว้ข้างกายนะจ๊ะ
ไม่ได้โฆษณาเน้อ เพียงว่าเห็นน่าสนใจ
ภาพจาก wallpapersafari.com