วิธีขจัดอาการขี้หึงด้วยตัวเอง

ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่ขี้หึงนะเธอ ก็รักมากจะไม่ให้หึงเลยคงไม่ใช่นะ แต่ว่านิสัยขี้หึงที่มากเกินไปมันก็น่าเบื่อมากเลยนะ ฉะนั้น ก่อนที่หนุ่มๆ ของคุณจะ say goodbye กันไป รีบแก้นิสัยนั้นด่วนจ้า

วิธีขจัดอาการขี้หึงด้วยตัวเอง

1.ค้นหาสาเหตุ

พยายามค้นหาสาเหตุให้ได้ว่า อาการขี้หึงจนหน้ามืดหูอื้อนี้มาจากไหน ซึ่งตามปกติมักมาจากปมเหล่านี้ เช่น ความรู้สึกไม่มั่นคง มีวัยเด็กที่ไม่ค่อยดีนัก มีปมปัญหาชีวิตในอดีต หรือตัวเราเองเป็นคนที่ชอบนอกใจจนนึกว่าคนอื่นก็คงไม่ซื่อสัตย์เช่นกัน ทำให้เกิดอาการหวาดระแวงซึ่งเป็นบ่อเกิดของความหึงหวง ถ้ายังมองตัวเองไม่ออก ขอให้ทำใจเย็นค่อยๆคิดพิจารณา โดยอาจใช้ปัญหาของเพื่อนที่ถูกแฟนนอกใจมาวิเคราะห์เป็นตัวอย่าง ถ้ายังมองไม่ออกอีก คงต้องพึ่งมืออาชีพอย่างนักจิตวิทยาแล้วละ

2.นับถือตัวเอง

ยิ่งเรานับถือตัวเองและเชื่อมั่นในตัวเองมากเท่าไร การที่เราจะเอาสมองไปคิดว่าแฟนเราจะนอกใจแอบไปเจ๊าะแจ๊ะสาวอื่น ก็จะยิ่งน้อยลงเท่านั้น จงเชื่อในตัวเอง อย่ามัวแต่คิดว่า ฉันสวยไม่พอ ฉันเก่งไม่พอ แฟนฉันต้องแอบไปเจ๊าะแจ๊ะสาวอื่นแก้ขัด เขามาเป็นแฟนเรา นั่นแสดงว่า เขาย่อมต้องรักเราในแบบที่เราเป็นมาตั้งแต่แรกแล้ว อย่ามัวแต่คิดว่าตัวเองไม่ดีพอสำหรับเขา ความจริงน่าจะมองในทางกลับกันบ้างว่า เขานั่นแหละที่ดีพอสำหรับเราหรือเปล่า

3.เปลี่ยนพฤติกรรม

เทคนิคนี้เป็นของนักจิตวิทยาจากเมืองนอกเมืองนา ซึ่งเป็นผู้วชาญเกี่ยวกับอาการหึงหวงโดยเฉพาะ วิธีนี้อาจฟังดูยาก ใช้เวลามากและประดักประเดิดชอบกล แต่รับรองว่าได้ผลชะงัด เพราะเคยมีคนลองแล้วสามารถแก้ไขลดอาการหึงหวงให้น้อยลงได้อย่างไม่น่าเชื่อ

เขียนทุกอย่างในความรู้สึก

ทุกครั้งที่เกิดอารมณ์หึงหวงคุกรุ่น เขียนลงกระดาษทันที และใส่คะแนนด้วยว่า ความหึงหวงนั้นเข้มข้นแค่ไหน คะแนนเต็มไม่เกินสิบก็พอ เช่น แฟนฉันกำลังคุยเจ๊าะแจ๊ะกับผู้หญิงที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะหลังร้าน ถัดจากประโยคแรก เขียนเหตุผลที่ทำให้เราหึงลงไปให้หมด แจกแจงให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้

แจกแจงคำอธิบายถึงเหตุผลแต่ละข้อ

เมื่อเขียนเหตุผลของความหึงหวงเสร็จแล้ว ควรนั่งสงบจิตใจให้อารมณ์เย็นลงสักสองสามนาที หายใจเข้าลึกๆ เตือนตัวเองว่าครั้งล่าสุดที่แสดงอาการหึงหวงนั้นเป็นอย่างไร จากนั้นลองบังคับตัวเองให้หาคำอธิบายในเหตุผลแต่ละข้อ และต้องเป็นคำอธิบายในด้านดีด้วย ถึงแม้ว่าในใจจะร่ำร้องว่า ไม่จริ๊งไม่จริง ฉันไม่เชื่อก็เถอะ

ย้อนทบทวน

เขียนเสร็จแล้ว ลองมานั่งอ่านทบทวนสิ่งที่เขียน เน้นตรงคำอธิบายในแง่ดีทั้งหลายแหล่ที่เราได้พยายามเค้นความรู้สึกเขียนออกมา ในระหว่างที่เราทบทวนอยู่นี้ ความโกรธความหึงหวงทั้งหลายทั้งปวงจะค่อยๆบรรเทาเบาบางลง แทนที่จะไปอาละวาดเอากับแฟนเหมือนที่เคยทำ ก็กลายเป็นว่าเราสามารถควบคุมตัวเองได้ ไม่โกรธจนหูอื้อหน้ามืดแล้วไปวีนแตกเหมือนเมื่อก่อน

กลับไปเผชิญหน้ากับสถานการณ์

ถ้าเราต้องทำเป็นไม่สนใจแฟนที่กำลังคุยกับสาวอื่น หรือต้องทำเมินมองไปทางอื่น อารมณ์จึงจะสงบลงได้ก็ควรทำซะ ถ้าแฟนกลับมาแล้วถามว่าเราหายไปไหนมาตั้งนาน ก็ให้ตอบเขาไปตรงๆว่า เรากำลังทำอะไรอยู่ แอบไปนั่งเขียนที่ไหน ถ้าเขาจับมือเราบีบเพื่อให้กำลังใจก็ปล่อยให้เขาทำไปเถอะ แม้ว่าในใจอยากลุกขึ้นไปตบนังนั่นให้สาแก่ใจ ก็ต้องวางเฉยเสีย พยายามฝืนยิ้มออกมาให้ได้ เพื่อให้เขารู้สึกว่าเราไม่ได้คิดอะไร แล้วรีบหาเรื่องอื่นคุยทันที

ในกรณีที่ควบคุมอารมณ์ไม่ได้

ขนาดหลบไปเขียนลงกระดาษแล้วยังไม่หายหงุดหงิด ก็ขอให้ไปทำซ้ำ ถ้ายังไม่เวิร์คควรกลับบ้านไปเลย ก่อนที่จะวีนแตกออกมาให้เสียกิริยา จะกลับบ้านเองหรือกลับกับแฟนก็แล้วแต่ แล้วไปนั่งเขียนที่บ้านใหม่ ถ้าเราเป็นคนที่ขี้หึงสุดๆ การบำบัดด้วยวิธีนี้จะได้ผลช้ามาก แค่ 2-3 อาทิตย์แทบไม่เห็นผล ต้องใช้เวลาเป็นเดือนขึ้นไปถึงจะเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน บางรายต้องใช้เวลาสามเดือนเต็มๆอาการขี้หึงจึงหายสนิท

เคล็ดลับของการบำบัดด้วยตัวเองแบบนี้ ต้องใช้ความอดทนสูงมาก ถ้ายังไม่เวิร์คก็ต้องทำซ้ำๆไปเรื่อยๆ รู้สึกอย่างไร คิดอะไร มีเหตุผลอะไรเขียนลงไป แม้ต้องใช้เวลานานก็ต้องทำต่อไปอย่าท้ออย่าหยุด อย่ายอมพ่ายแพ้ต่อความหึงหวง ถ้าอยากให้ความรักครั้งนี้อยู่กับเราให้นานๆ ก็ควรทำตัวให้เขาอยากอยู่ใกล้ๆ ถ้าเราเป็นสาวน่ารักอารมณ์ดี ยิ้มแย้มอยู่เสมอ ไม่หน้างอเป็นตะบักตะบวย เอาแต่หวาดระแวงตามจิกเขาตลอดเวลา รับรองว่าเขาจะไม่เหลียวแลผู้หญิงอื่นแน่นอน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง