โอ๊ะโอ .. นั่นไงหนุ่มหล่อล้ำปล้ำง่าย สเปคเลยละ กำลังยืนเข้าคิวจ่ายเงินข้างหน้าเรา หรืออาจกำลังร่วมอยู่ในปาร์ตี้เดียวกัน เขาคือคนแปลกหน้าที่เราไม่เคยพบ ทำอย่างไรหนอจึงจะได้รู้จักมักจี่เอาไว้เป็นเพื่อนก็ได้แฟนก็ดี ต่อไปนี้คือเทคนิควิธีการเข้าหาผู้ชายแปลกหน้าแบบมีฟอร์มงามๆ ไม่เสียยี่ห้อหญิงไทยดังนี้ค่ะ
6 วิธี เข้าหาหนุ่มแปลกหน้าที่แอบปิ๊ง
สบตาเข้าไว้
เริ่มด้วยการยืนใกล้ๆ แค่พอให้เริ่มบทสนทนาได้ อย่ารุกประชิดเสียจนผู้ชายจนตรอกไร้ทางหนี จากนั้นประสานสายตาพร้อมกับยิ้มให้เขาแว่บเดียว แต่ต้องเป็นยิ้มสุดกระจ่างสว่างใจ แล้วนิ่งรอรอยยิ้มตอบกลับประมาณ 1-2 วินาทีจึงเสมองไปทางอื่น หากเขายิ้มให้และสบตาเราตรงๆ แสดงว่าเขาเปิดทางสู่บทสนทนา แต่ถ้าเขาหลบตาแล้วส่งยิ้มมุมปากเครียดๆมาให้ ท่าทางยากค่ะ (เขาอาจอายหรือไม่สนใจเรา)
พูดอะไรก็ได้
คงไม่ต้องถึงขนาดร่ายยาวประโยคเปิดการสนทนาเด็ดๆให้หรอกนะคะ แหม…เรื่องแค่นี้หญิงมั่นอย่างเราทำได้อยู่แล้ว อย่าเผลอพูดจาเรื้อยเจื้อยเป็นต่อยหอยก็พอ ควรเอ่ยถึงสิ่งที่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์ในขณะนั้นซึ่งไม่ท้าทายหรือก้าวร้าวเกินไป หากกำลังยืนอยู่ในร้านเบเกอรี่ ให้ระงับอกระงับใจไม่หลุดปากถึงความหล่อล่ำของเขา สิ่งที่ควรพูดคือ “คุณเคยกินแซนวิชร้านนี้ไหม ฉันตัดสินใจไม่ถูกระหว่างแซนวิชไก่หรือทูน่า” ข้อควรจำคือ บทสนทนายิ่งธรรมดาเท่าไรก็ยิ่งเวิร์คเท่านั้น
ทำยังไงดีถ้านึกอะไรไม่ออก
หากจนปัญญาไม่รู้จะพูดอะไร บทเรียนสำหรับคนเรียนนิเทศศาสตร์คือ ตอบโจทก์ 5 ข้อให้ครบในย่อหน้าแรก ได้แก่ ใคร อะไร เมื่อไร ที่ไหน และทำไม ตัวอย่างเช่น ถ้าเรากำลังอยู่ในงานเปิดนิทรรศการภาพถ่ายของใครคนหนึ่ง ลองเริ่มว่า “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อ… คุณรู้จักเวียงสมัย(ชื่อช่างภาพ)หรือแค่ติดตามผลงานคะ” “รถติดไหมคะ วันนี้ฉันมาสายเลย” “ภาพถ่ายพวกนี้เยี่ยมมากเลยนะคะ” “คุณคิดยังไงกับผลงานของเวียงสมัย ฉันเป็นเพื่อนสนิทค่ะ แต่คุณพูดตรงๆได้ เพราะเธอชอบคำวิจารณ์”
สังเกตุปฏิกิริยา
ถ้าเขายินดีสานบทสนทนาต่อไป รอยยิ้มของเขาจะกว้างขึ้นเรื่อยๆ แถมยังขยับตัวเข้ามาใกล้และชะโงกตัวเข้าหาเราอย่างเห็นได้ชัด อย่าเพิ่งยอมแพ้หากผู้ชายไม่ทำท่ากระเ***้ยนกระหือในทันทีทันใด อารมณ์วิตกกังวลจะทำให้เราแปลความตื่นเต้นของเขาเป็นความเขินอายหรือหยิ่งขี้เก๊ก ผู้ชายก็ตื่นเต้นเป็นนะคะ
ไม่ให้ขาดตอน
เมื่อเปิดฉากสนทนาได้อย่างแฮปปี้แช่มชื่น ลองก้าวไปไกลกว่าเดิม โดยเปลี่ยนจากการสนทนาแสนสุภาพตามมารยาทสังคม ไปสู่การพูดคุยกันจริงๆ ด้วยการถามถึงความรู้สึกหรือเหตุผล เช่น “คุณรู้สึกอย่างไรถ้า…” หากวิธีนี้ไม่ราบรื่นอย่างที่หวัง นั่นแสดงว่าเขาไม่สนใจ แถมยังไม่หลวมตัวเออออไปกับเรา หรือไม่เราก็ถามคำถามปิดเกินไป คำถามเปิดคือคำถามที่ต้องการคำอธิบาย เช่น “คุณคิดยังไงกับร้านนี้” คำถามปิดคือคำถามที่ตอบแค่เยสหรือโน เช่น “คุณมาที่นี่บ่อยไหมคะ” แต่ไม่ว่าจะยังไงต้องยิ้มเข้าไว้ ธรรมชาติของมนุษย์จะชอบคนที่มาแสดงออกว่าติดเนื้อพึงใจอย่างเห็นได้ชัด หากแสดงออกว่าเราแฮปปี้ที่ได้คุยกับเขา เขาก็จะเพลิดเพลินในการคุยกับเรา
แค่มารยาทหรือเปล่า
เป็นไปได้ว่าการที่เขาพูดคุยกับเราอย่างสุภาพบุรุษที่สุดในโลก เขาอาจเป็นฝ่ายจบการสนทนาทันทีที่มีโอกาส ของแบบนี้ต้องทดสอบดูค่ะ ลองขอตัวผละออกมากลางคันสัก 2-3 นาที แล้วดูว่าเขาชะเง้อชะแง้คอยเรากลับมาหรือเปล่า “ฉันจะไปหาอะไรดื่มสักหน่อย คุณอยากได้อะไรไหมคะ” ถ้าสนใจเราอยู่เขาจะตอบโอเคถึงแม้จริงๆแล้วไม่อยากดื่มอะไรเลย แต่ถ้าเขาตอบว่า “ไม่เป็นไรครับ ผมไปเอาเองดีกว่า” หรือ “ผมคิดว่ารอเพื่อนมาก่อนดีกว่า” แป่ว ! กลับบ้านเถอะค่ะ เขาแค่มีมารยาท ไม่ได้ใยดีเราสักนิด